บริการจัดทำเว็บไซต์ e-Commerce https://www.atcreative.co.th/ รับทำเว็บไซต์ e-Commerce Tue, 11 Feb 2020 04:07:21 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=6.3.2 เตรียมรับมือ! 6 เทรนด์ E-Commerce มาแน่ ในปี 2020 https://www.atcreative.co.th/%e0%b9%80%e0%b8%95%e0%b8%a3%e0%b8%b5%e0%b8%a2%e0%b8%a1%e0%b8%a3%e0%b8%b1%e0%b8%9a%e0%b8%a1%e0%b8%b7%e0%b8%ad-6-%e0%b9%80%e0%b8%97%e0%b8%a3%e0%b8%99%e0%b8%94%e0%b9%8c-e-commerce-%e0%b8%a1%e0%b8%b2-2/ Tue, 11 Feb 2020 02:58:12 +0000 https://www.atcreative.co.th/?p=17074 หากพูดถึงช่องทางการทำ E-Commerce ที่คนไทยนิยมใช้มากที่สุดก็คงจะหนีไม่พ้นตลาด Social Commerce ซึ่งเมื่อนำข้อมูลสัดส่วนของ Platform ต่างๆ ในตลาด E-Commerce มาเปรียบเทียบกันจะเห็นว่า ในฝั่งของ Social Media นีไม่พ้นตลาด Social Commerce ซึ่งเมื่อนำข้อมูลสัดส่วนของ Platform

The post เตรียมรับมือ! 6 เทรนด์ E-Commerce มาแน่ ในปี 2020 appeared first on บริการจัดทำเว็บไซต์ e-Commerce.

]]>
การเติบโตแบบก้าวกระโดดของตลาด E-Commerce แนวโน้มของธุรกิจร้านค้าออนไลน์ในปี 2020
ว่ากำลังก้าวเข้าสู่ยุคไร้พรมแดนแบบเต็มตัวจากกระแสของเทรนด์ ดังต่อไปนี้

1. การทำตลาด E-Commerce ไทยจะดุเดือดขึ้น ????

หากนับจำนวนของสินค้าที่อยู่บน 3 Marketplaces เจ้าใหญ่อย่าง Lazada, Shopee และ JD Central จะพบว่า ในปี 2018 ทั้ง 3 แพลตฟอร์มมีสินค้ารวมกันอยู่ที่ 74 ล้านชิ้น เมื่อนำไปเปรียบเทียบกับปี 2019 แล้วจะเห็นว่า มีจำนวนสินค้าที่เติบโตมากขึ้นถึง 174 ล้านชิ้นหรือมากถึง 2.4 เท่า โดยจำนวนสินค้าที่เพิ่มขึ้นมากว่า 77% เป็นสินค้าที่มาจากต่างประเทศโดยเฉพาะประเทศจีน ส่วนจำนวนสินค้าจากประเทศไทยเองนั้นกลับมีสัดส่วนอยู่บนแพลตฟอร์มที่น้อยกว่ามาก

ข้อมูลนี้แสดงให้เห็นว่า ตลาดรับทำเว็บไซต์ e-commerce ของไทยกำลังเข้าสู่สนามแข่งขันกับชาวต่างชาติที่ไหลทะลักเข้ามาทำธุรกิจในบ้านเรามากยิ่งขึ้น แน่นอนว่า ในปี 2020 นี้ผู้ประกอบการที่เป็นเจ้าบ้านอย่างเราๆ อาจจะต้องเหนื่อยเพิ่มขึ้นกันอีกสักหน่อยกับจำนวนสินค้าที่มีในตลาดมากขึ้นจากชาวต่างชาติ แต่ถ้ามองในแง่ของยอดขายก็ยังถือว่าเป็นโชคดีที่คนไทยยังเลือกซื้อสินค้าจากร้านค้าออนไลน์ภายในประเทศมากกว่าถึง 86% อาจจะด้วยปัจจัยด้านการขนส่ง ความเชื่อมั่นในตัวรับทําเว็บขายของออนไลน์ หรือการรับประกันสินค้าต่างๆ ที่ต่างประเทศยังไม่สามารถตีตลาดคนไทยในส่วนนี้ได้  แต่ในปี 2020 นี้เทรนด์การซื้อสินค้าอาจเปลี่ยนไป เนื่องจากนโยบายของรัฐบาลที่สนับสนุนให้เปิดการค้าเสรี ซึ่งจะทำให้การขนส่งสินค้าจากต่างประเทศรวดเร็วมากขึ้นกว่าเดิม และนี่คือจุดที่ผู้ประกอบการไทยควรให้ความสำคัญและเตรียมที่จะปรับตัวลงสนามแข่งขันกันมากขึ้น

2. แบรนด์จะหันมาทำ Direct to Customers มากขึ้น

ประเด็นนี้ถือเป็นเรื่องที่น่าสนใจ เพราะเทรนด์รับทำ e-commerce ชั้นนำ  ไทยในปี 2020 ผู้ประกอบการเจ้าใหญ่ๆ จะเริ่มให้ความสำคัญกับการทำ Direct to Customers ซึ่งเทรนด์นี้เกิดขึ้นจากการที่แบรนด์อยากจะทำความเข้าใจและรู้ใจลูกค้าให้ได้มากที่สุด เพื่อสร้าง Customer Loyalty ให้กับธุรกิจของตัวเอง

รวมถึงแบรนด์เองก็อยากจะเป็นเจ้าของ Data ซึ่งเป็นฐานข้อมูลที่สำคัญที่จะทำให้แบรนด์รู้ทุกอย่างว่า ผู้ใช้งานแต่ละคนดูอะไร ชอบอะไร ซื้ออะไร รุ่นไหน เมื่อไหร่ หรือแม้แต่คาดการณ์ว่าในอนาคตพวกเขาจะอยากซื้ออะไรได้โดยไม่จำเป็นต้องทำผ่านช่องทาง E-Marketplace ต่างๆ อีกต่อไป

3. Social Commerce เป็นช่องทางที่หลีกเลี่ยงไม่ได้

หากพูดถึงช่องทางการทำ E-Commerce ที่คนไทยนิยมใช้มากที่สุดก็คงจะหนีไม่พ้นตลาด Social Commerce ซึ่งเมื่อนำข้อมูลสัดส่วนของ Platform ต่างๆ ในตลาด E-Commerce มาเปรียบเทียบกันจะเห็นว่า ในฝั่งของ Social Media ถือเป็นช่องทางที่มีอิทธิพลในด้านการซื้อขายสูงสุดถึง 40%  และเมื่อนำข้อมูลมาเปรียบเทียบกันในหลายๆ ประเทศ จะพบว่า ประเทศไทยถือเป็นผู้นำของตลาด Social Commerce โดยมีจำนวนคนไทยที่เคยชอปปิงผ่านช่องทาง Social Media ต่างๆ สูงถึง 40% ซึ่งเรียกได้ว่ามีจำนวนที่สูงที่สุดในกลุ่มประเทศที่ทำการสำรวจอีกด้วย

เรื่องนี้แสดงให้เห็นว่า Social Commerce เป็นช่องทางที่จำเป็นและหลีกเลี่ยงไม่ได้สำหรับการทำการตลาดบนโลกออนไลน์ และในปี 2020 นี้ ตลาด Social Commerce จะยิ่งคึกคักและตอบสนองการซื้อสินค้าออนไลน์เพิ่มขึ้นได้อีกจากการเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ๆ ที่สามารถช่วยให้ผู้ประกอบการทั้งหลายสามารถปิดการขายได้เลยในแอปพลิเคชันเดียว ยกตัวอย่างเช่น Facebook Pay, Instragram Shopping, Line Shopping เป็นต้น

4. Ride-Hailing Delivery ผนวกกับ E-Commerce

ในปี 2019 เทรนด์ธุรกิจ Ride-Hailing Delivery  ในไทยถือว่าเติบโตขึ้นมากโดยเฉพาะภาค Food Delivery และในปี 2020 นี้ Priceza ได้สรุปและคาดการณ์ไว้ว่า เทรนด์ธุรกิจ Ride-Hailing Delivery จะขยายตัวเข้ามาในภาค E-Commerce  สำหรับตลาด E-Commerce รับทําเว็บขายของออนไลน์ของประเทศอินโดนีเซีย ในแพลตฟอร์ม E-Marketplace ต่างๆ จะมีฟีเจอร์การจัดส่งในรูปแบบ Ride-Hailing Delivery ที่พร้อมทั้งส่งตรงสินค้าถึงมือผู้บริโภคภายในวันเดียว (Same Day Delivery) อยู่ด้วย ดังนั้น การแข่งขันของธุรกิจโลจิสติกส์ในปี 2020 ของไทยจะดุเดือดขึ้นกว่าปี 2019 เพราะสินค้าต่างๆ จะเน้นบริการจัดส่งที่รวดเร็วมากขึ้นอย่างแน่นอน

5. เทรนด์การขายผ่าน E-Marketplace ยังคงมาแรง

สำหรับข้อนี้จะเป็นการสรุปประเด็นจาก 3 Speakers ของ Lazada, Shopee และ JD Central ที่เห็นพ้องต้องกันว่า ในยุคนี้การชอปปิงออนไลน์รับทําเว็บไซต์ ขายสินค้าไม่ได้เป็นแค่ช่องทางส่งเสริมการขาย แต่เป็นไลฟ์สไตล์ที่เกิดขึ้นเพื่อความบันเทิงมากขึ้น

และในปี 2020 ก็ถือเป็นเวลาที่ดีที่ธุรกิจทั้งหลายจะเริ่มสร้างตัวตนบนไว้บน E-Marketplace ทั้งนี้ ก็เพื่อรวบรวมฐานลูกค้าและ Data ในตลาด E-Marketplace ที่กำลังมาแรง ด้วยการสร้าง Brand Official Shop ของตัวเองบน Platform ของ E-Marketplace  เพราะจากข้อมูลของสินค้าทั้งหมด 44,000 แบรนด์ มีจำนวนร้านค้าแค่ 1,700 ร้าน หรือคิดเป็น 4% เท่านั้นที่เข้ามาทำตลาดใน E-Marketplace ทำให้เกิดการคาดการณ์ว่าในปี 2020 นี้จะมีจำนวนสินค้าและจำนวนร้านค้าที่เป็น Brand Official Shop เพิ่มขึ้นถึง 3 เท่า ส่งผลให้แบรนด์ต่างๆ เข้าถึงลูกค้าได้ง่ายและไม่เสียโอกาสในการขายให้กับพ่อค้าคนกลางหรือตัวแทนใดๆ ซึ่ง E-Marketplace ทั้งหลายเริ่มปรับตัวให้ทันต่อพฤติกรรมของผู้บริโภคด้วยการจัดแคมเปญให้ร่วมสนุก อย่างช่วง 11.11 ที่กระตุ้นให้คนออกมาใช้จ่ายได้มากขึ้น ทำให้เว็บไซต์ Marketplace หลายแบรนด์สร้าง Engagement ที่ดีได้คล้ายกับ Social Media Platform เลยทีเดียว

6. Omni Channel คือโอกาสที่ห้ามลืม

อีกหนึ่งเรื่องที่พูดถึงกันตั้งแต่งาน Priceza เมื่อปีที่แล้ว กับการทำธุรกิจในรูปแบบ Omni Channel ซึ่งเป็นการผสมผสานช่องทางการขายทั้งแบบ Offline และ Online เข้าไว้ด้วยกัน เพื่อสร้างประสบการณ์แบบไร้รอยต่อในการชอปปิงสินค้า (Seemless Experience) ให้กับลูกค้าได้มากขึ้นเป็นเทรนด์ที่น่าจับตามองเป็นอย่างยิ่งสำหรับเมืองไทย โดยในปี 2019 นี้ก็มีธุรกิจใหญ่อย่าง Central Retail ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจที่มียอดขายหลักเกือบ 100% มาจากออฟไลน์ได้ลองนำ Omni Channel มาปรับใช้ในการดำเนินธุรกิจ ทำให้สัดส่วนของยอดขายจากการทำ Omni Channel มีเปอร์เซ็นการเติบโตขึ้นมาเป็น 2.6%  เมื่อนำเปรียบเทียบกับตลาดอีคอมเมิร์ซทางฝั่งอเมริกา จะเห็นว่า ยอดขายจากการทำ Omni Channel ของประเทศอเมริกาเติบโตเฉลี่ยอยู่ที่ 40.9% แสดงให้เห็นว่า ยอดขายจากการทำ Omni Channel ของไทยยังมีโอกาสเติบโตที่สูงขึ้นได้อีกมาก

 

นอกจากนี้ธุรกิจในรูปแบบ Omni Channel ยังมีประโยชน์ในด้านการเพิ่มอัตราการใช้จ่ายของผู้บริโภคมากขึ้น อ้างอิงจากข้อมูลของ Central ที่มีอัตราเฉลี่ยของรายจ่ายต่อปีเพิ่มสูงขึ้น 190% จากการ Tranform รูปแบบธุรกิจจากแบบ Offline มาเป็น Omni Channel

 

ที่มา : priceza.com

The post เตรียมรับมือ! 6 เทรนด์ E-Commerce มาแน่ ในปี 2020 appeared first on บริการจัดทำเว็บไซต์ e-Commerce.

]]>
แนะแนวทางที่ผู้ประกอบการควรปรับตัวในปี 2020 https://www.atcreative.co.th/%e0%b9%81%e0%b8%99%e0%b8%b0%e0%b9%81%e0%b8%99%e0%b8%a7%e0%b8%97%e0%b8%b2%e0%b8%87%e0%b8%97%e0%b8%b5%e0%b9%88%e0%b8%9c%e0%b8%b9%e0%b9%89%e0%b8%9b%e0%b8%a3%e0%b8%b0%e0%b8%81%e0%b8%ad%e0%b8%9a%e0%b8%81-2/ Sat, 08 Feb 2020 02:04:50 +0000 https://www.atcreative.co.th/?p=17024 เพราะจากข้อมูลการช้อปปิ้งออนไลน์ของคนไทยในปัจจุบันมักจะนำสินค้าที่ตามหาอยู่นั้นมาเปรียบเทียบคุณภาพและราคาก่อนการตัดสินใจซื้อทุกครั้ง ดังนั้น ผู้ประกอบการจึงต้องให้ความสำคัญกับตัวสินค้าให้มาก เพื่อที่สร้างความโดดเด่นและเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าสำหรับผู้บริโภคในยุคใหม่ให้ได้มากที่สุด

The post แนะแนวทางที่ผู้ประกอบการควรปรับตัวในปี 2020 appeared first on บริการจัดทำเว็บไซต์ e-Commerce.

]]>

แนะแนวทางการปรับตัวของธุรกิจทำเว็บไซต์ e-commerce  เพื่อต้อนรับรูปแบบการค้าขายที่ไร้พรมแดนที่กำลังจะเกิดขึ้นในปี 2020 ไว้ดังต่อไปนี้

เพราะเทรนด์การค้าขายแบบไร้พรมแดนของรับทำ e-commerce ชั้นนำ   ส่งเสริมให้ต่างชาติมากมายเข้ามาจับธุรกิจค้าขายบนแพลตฟอร์มออนไลน์ในบ้านเรามากยิ่งขึ้น

ในฐานะผู้ประกอบการไทยก็ต้องมองให้เห็นถึงช่องทางที่จะทำให้สินค้าของเราโดดเด่นมากยิ่งขึ้น ด้วยการทำให้สินค้าที่มีอยู่ในมือนั้นมีเอกลักษณ์ ไม่ซ้ำใคร รวมถึงคัดสรรให้คุณภาพของสินค้าอยู่ในเกณฑ์ที่สามารถแข่งขันกับตลาดโลกได้

เพราะจากข้อมูลการช้อปปิ้งออนไลน์ของคนไทยในปัจจุบันมักจะนำสินค้าที่ตามหาอยู่นั้นมาเปรียบเทียบคุณภาพและราคาก่อนการตัดสินใจซื้อทุกครั้ง ดังนั้น ผู้ประกอบการจึงต้องให้ความสำคัญกับตัวสินค้าให้มาก เพื่อที่สร้างความโดดเด่นและเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าสำหรับผู้บริโภคในยุคใหม่ให้ได้มากที่สุด

การบริการ ถือเป็นอีกปัจจัยที่จำเป็นสำหรับการทำธุรกิจทำเว็บไซต์ ecommerce ในยุคไร้พรมแดน เพราะการที่จะทำให้ลูกค้าติดหนึบจนไม่อยากหนีไปซื้อสินค้าจากเจ้าอื่นได้นั้น นอกจากเรื่องของสินค้าที่ต้องดีและมีคุณภาพแล้ว ก็ต้องทำให้ลูกค้ารู้สึกพึงพอใจผ่านการบริการของเราให้ได้มากที่สุดด้วย

แน่นอนว่าการทำ Direct to Customer (DTC) ที่เป็นการสร้างความสัมพันธ์โดยตรงกับลูกค้าก็เป็นอีกหนึ่งช่องทางที่จะช่วยให้ธุรกิจบรรลุในจุดประสงค์ในด้านการให้บริการได้ ซึ่งในแง่ของกระบวนการที่จะทำให้ลูกค้าสัมผัสกับความรู้สึกพึงพอใจจากการให้บริการของเราโดยตรงได้นั้น จะต้องประกอบขึ้นจากหลายปัจจัยสำคัญ เช่น

2.1 การมีช่องทางการชำระเงินที่สะดวก 

ในปัจจุบันคนไทยใช้จ่ายเงินผ่านการทำธุรกรรมแบบ EOD (E-Payment on Delivery) อย่างการโอนเงินผ่าน Internet Banking, E-wallet หรือตัดผ่านบัตรเครดิตรวมแล้วถึง 83% ดังนั้น ธุรกิจจึงควรพัฒนาการบริการให้สามารถใช้จ่ายผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ได้ง่ายขึ้นด้วย

2.2 การส่งสินค้าที่รวดเร็ว 

ยกตัวอย่างกรณีศึกษาของ JIB ร้านขายอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ที่วางจุดขายให้กับแบรนด์ตัวเองในด้านการบริการที่น่าประทับใจ โดยใช้เวลาส่งแค่ 3 ชั่วโมงสินค้าก็ถูกจัดส่งถึงมือของลูกค้า แถมยังเปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง เรียกว่าเป็น โมเดลที่ประสบความสำเร็จของการส่งสินค้าถึงมือผู้บริโภคได้ภายในวันเดียวเลยก็ว่าได้

2.3 บริการ Customer Support และการการันตีสินค้า

ความมั่นใจไม่ใช่สิ่งที่ซื้อได้ แต่สร้างขึ้นมาได้ ดังนั้น ธุรกิจ E-Commerce เว็บไซต์ ขาย สินค้า ออนไลน์จำเป็นที่จะต้องสร้างความน่าเชื่อถือให้เกิดกับธุรกิจด้วยการการันตีสินค้า รวมถึงการทำ Customer Support ที่ช่วยตอบคำถามลูกค้าทั้งในช่วงสอบถาม, ตัดสินใจซื้อ ตลอดจนช่วงหลังการขายด้วย

2.4 การเพิ่มช่องทางให้ครอบคลุม 

เพราะทุกวันนี้ลูกค้าซื้อสินค้าผ่านหลากหลายช่องทางบนโลกออนไลน์ ธุรกิจที่ทำอยู่จึงควรมีช่องทางการเข้าถึงที่ครอบคลุมทั้ง Social Commerce, E-marketplace และ Direct Channel เพื่อเพิ่มโอกาสในการขายในต้นทุนการทำที่ไม่สูง รวมถึงเพิ่มความสามารถในการเก็บฐาน Data ที่ทำให้เราเข้าใจถึงความต้องการของลูกค้าได้มากขึ้น

 

 

 

ที่มา : contentshifu.com

The post แนะแนวทางที่ผู้ประกอบการควรปรับตัวในปี 2020 appeared first on บริการจัดทำเว็บไซต์ e-Commerce.

]]>
เช็ค 3 เทรนด์ทำ E-commerce กุมใจนักช้อปออนไลน์ปี 2020 https://www.atcreative.co.th/%e0%b9%80%e0%b8%8a%e0%b9%87%e0%b8%84-3-%e0%b9%80%e0%b8%97%e0%b8%a3%e0%b8%99%e0%b8%94%e0%b9%8c%e0%b8%97%e0%b8%b3-e-commerce-%e0%b8%81%e0%b8%b8%e0%b8%a1%e0%b9%83%e0%b8%88%e0%b8%99%e0%b8%b1%e0%b8%81-2/ Fri, 07 Feb 2020 07:54:59 +0000 https://www.atcreative.co.th/?p=16970 นอกจากกระแส “ช้อปปิ้งออนไลน์” ทำเว็บไซต์ ขายของจะกลายเป็นเทรนด์ฮิตของผู้บริโภคในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ยังสร้างเทรนด์ใหม่ ๆ ให้เกิดขึ้นมากมาย ว่าแต่ปี 2020 จะมีเทรนด์อะไรใหม่ ๆ ที่แบรนด์ต้องเรียนรู้เพื่อทำความรู้จักกับผู้บริโภคบ้าง นอกจากการเรียนรู้ที่จะทำอีคอมเมิร์ซ

The post เช็ค 3 เทรนด์ทำ E-commerce กุมใจนักช้อปออนไลน์ปี 2020 appeared first on บริการจัดทำเว็บไซต์ e-Commerce.

]]>

นอกจากกระแส “ช้อปปิ้งออนไลน์” ทำเว็บไซต์ ขายของจะกลายเป็นเทรนด์ฮิตของผู้บริโภคในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ยังสร้างเทรนด์ใหม่ ๆ ให้เกิดขึ้นมากมาย ว่าแต่ปี 2020 จะมีเทรนด์อะไรใหม่ ๆ ที่แบรนด์ต้องเรียนรู้เพื่อทำความรู้จักกับผู้บริโภคบ้าง นอกจากการเรียนรู้ที่จะทำอีคอมเมิร์ซ ทำเว็บไซต์ e-commerce  ให้เข้าถึงลูกค้าได้สะดวกขึ้น แต่ก็ต้องทำให้โอกาสจากการเข้าถึงเหล่านั้นตรงกับ “ความชื่นชอบ” ของลูกค้าให้ได้ด้วย

สิ่งที่คนทำธุรกิจช้อปปิ้งออนไลน์ห้ามมองข้ามในปีนี้ มีอยู่ 3 เรื่องสำคัญ ได้แก่ “Personalised – Engaging – Social” เนื่องจากผู้บริโภคยังคงต้องการและชื่นชอบการนำเสนอข้อมูลที่ตรงกับความต้องการ มากกว่าการแนะนำสินค้าหรือโปรโมชั่นแบบหว่าน

3 เทรนด์ทำ E-commerce กุมใจนักช้อปออนไลน์ปี 2020!!

ประเด็นสำคัญก็คือ การนำ AI และ Big Data เข้ามาสร้างสรรค์ประสบการณ์การช้อปปิ้งเฉพาะบุคคล โดยสามารถใช้ข้อมูลอ้างอิงจากการซื้อ หรือการท่องเว็บมาประกอบได้

หากสามารถเติมเต็มประสบการณ์อื่นร่วมกับการช้อปปิ้งออนไลน์ได้ ก็อาจจะสร้างความบันเทิงและเรียกความสนใจจากผู้ใช้งานได้มากขึ้น เช่น การเพิ่มเกม การเพิ่มคอนเทนต์บันเทิงอื่น ๆ ลงไป

การมีปฏิสัมพันธ์ทางโซเชียลนั้น ถือเป็นเรื่องที่ดีเพื่อทำให้ผู้ใช้งานรู้สึกว่ามีจุดเชื่อมโยงกัน สามารถเข้าถึงคอนเทนต์ หรือสร้างปฏิสัมพันธ์ระหว่างเพื่อน รวมถึงผู้ซื้อ ผู้ขาย ได้ในแพลตฟอร์มเดียว

 

 

 

ที่มา : Shopee

The post เช็ค 3 เทรนด์ทำ E-commerce กุมใจนักช้อปออนไลน์ปี 2020 appeared first on บริการจัดทำเว็บไซต์ e-Commerce.

]]>
โอกาสธุรกิจที่ไม่ควรมองข้ามทิศทางนักท่องเที่ยวจีนมาไทยในอีก 10 ปีข้างหน้า https://www.atcreative.co.th/%e0%b9%82%e0%b8%ad%e0%b8%81%e0%b8%b2%e0%b8%aa%e0%b8%aa%e0%b8%b3%e0%b8%84%e0%b8%b1%e0%b8%8d%e0%b8%97%e0%b8%b5%e0%b9%88%e0%b8%98%e0%b8%b8%e0%b8%a3%e0%b8%81%e0%b8%b4%e0%b8%88%e0%b9%84%e0%b8%a1%e0%b9%88/ Wed, 05 Feb 2020 02:00:12 +0000 https://www.atcreative.co.th/?p=16791 ศูนย์วิจัยธนาคารกรุงไทย วิเคราะห์ใน 10 ปีข้างหน้า นักท่องเที่ยวจีนจะเพิ่มขึ้นเฉลี่ยปีละ 6.9% ตามกำลังซื้อและสัดส่วนชนชั้นกลางที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ถ้าหากไทยยังสามารถรักษาสัดส่วนนักท่องเที่ยวจีนที่ 7% ยอดนักท่องเที่ยวจีนในไทยจะแตะ 23 ล้านคน ในปี 2030 ด้านความงดงาม

The post โอกาสธุรกิจที่ไม่ควรมองข้ามทิศทางนักท่องเที่ยวจีนมาไทยในอีก 10 ปีข้างหน้า appeared first on บริการจัดทำเว็บไซต์ e-Commerce.

]]>
ศูนย์วิจัยธนาคารกรุงไทย วิเคราะห์ใน 10 ปีข้างหน้า นักท่องเที่ยวจีนจะเพิ่มขึ้นเฉลี่ยปีละ 6.9% ตามกำลังซื้อและสัดส่วนชนชั้นกลางที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ถ้าหากไทยยังสามารถรักษาสัดส่วนนักท่องเที่ยวจีนที่ 7% ยอดนักท่องเที่ยวจีนในไทยจะแตะ 23 ล้านคน ในปี 2030 ด้านความงดงามของธรรมชาติ เอกลักษณ์และวัฒนธรรมในประเทศไทยนั้น ทำให้ไทยเป็นปลายทางแหล่งท่องเที่ยวอันดับ 1 ของจีน แนะผู้ประกอบการทำการตลาดบนสื่อโซเชียลมีเดียจีน เพื่อเข้าถึงกลุ่มนักท่องเที่ยว

 

กำลังซื้อดีคนอยากเที่ยว

ปัจจุบันนักท่องเที่ยวจีนมีความสำคัญอย่างมากต่อการท่องเที่ยวรับทำเว็บไซต์ขายของออนไลน์  จึงได้จัดทำบทวิจัยเรื่อง “เกาะติดทิศทางนักท่องเที่ยวจีน” พบว่าใน 10 ปีข้างหน้า การท่องเที่ยวต่างประเทศของชาวจีนจะเพิ่มขึ้นเฉลี่ยปีละ 6.9% จาก 160 ล้านคน ในปี 2019 เป็น 334 ล้านคน ในปี 2030 เนื่องจากกำลังซื้อที่ยังเพิ่มขึ้น

แม้เพิ่มในอัตราที่ชะลอลงบ้างตามทิศทางเศรษฐกิจ แต่ชาวจีนที่รวยขึ้นอยู่ในลักษณะของการกระจายตัวตามมณฑลต่างๆ โดยสัดส่วนชนชั้นกลางจะเพิ่มขึ้นจนเกือบเป็นครึ่งหนึ่งของครัวเรือนจีน  นอกจากนี้ จีนยังมีแผนขยายสนามบินและเที่ยวบินอย่างต่อเนื่อง โดยจะเพิ่มสนามบินใหม่อีกกว่า 200 แห่ง ปรับโครงสร้างพื้นฐานสนามบินเดิม นอกจากนี้ มาตรการผ่อนคลายด้านวีซ่าของประเทศต่างๆ หนุนให้ชาวจีนเที่ยวนอกได้ง่ายขึ้น

โครงสร้างประชากรที่เปลี่ยนไปจะสร้างนักท่องเที่ยวจีนหน้าใหม่ราว 33 ล้านคน โดยนักท่องเที่ยวจีนส่วนใหญ่มีอายุเฉลี่ย 35  ปี สามารถเข้าถึงข้อมูลรับทำเว็บไซต์ขายสินค้าในโลกออนไลน์ และสามารถท่องเที่ยวได้ด้วยตนเอง ซึ่งเริ่มมองหาแหล่งท่องเที่ยวประเภท Unseen รวมถึงเมืองรองทั้งในและต่างประเทศมากขึ้น โดยเวียดนาม เมียนมาและกัมพูชา เป็นแหล่งท่องเที่ยวมาแรงในสายตาของนักท่องเที่ยวจีน

ทั้งนี้ โซเชียลมีเดียมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจทําเว็บ e-commerce ในการเที่ยวนอกประเทศและช้อปปิ้งของชาวจีนสูงมาก ดังนั้นธุรกิจและองค์กรด้านการท่องเที่ยวทั่วโลก จึงใช้โซเชียลมีเดียจีนนำเสนอข้อมูลแก่นักท่องเที่ยวจีน

 

จีนยังชอบเที่ยวไทย ญี่ปุ่นและเวียดนาม

ปัจจุบันไทยยังเป็นปลายทางแหล่งท่องเที่ยวอันดับ 1 ของนักท่องเที่ยวจีน รองลงมาคือญี่ปุ่นและเวียดนาม ซึ่งในอนาคต Krungthai Compass ประเมินแนวโน้มนักท่องเที่ยวจีนออกเป็น 2 กรณี โดยกรณีแรก คือ หากไทยสามารถรักษาสัดส่วน 7% ของชาวจีนที่เดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศ จำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่มาเยือนไทยมีโอกาสแตะ 23 ล้านคน ในปี 2030

จากขณะนี้ที่มีจำนวน 11.1 ล้านคน และกรณีที่สอง คือ หากการแข่งขันรุนแรง โดยเฉพาะประเทศเวียดนาม อาจทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวจีนเติบโตเพียง 5.5% หรืออยู่ที่ 20 ล้านคนใน 10 ปีข้างหน้า

 

ซึ่งไทยต้องแข่งขันด้วยการรักษาจุดแข็งด้านความงดงามทางธรรมชาติ ความโดดเด่นด้านโครงสร้างพื้นฐานบริการด้านการท่องเที่ยว การขนส่งทางอากาศและราคา เพิ่มความหลากหลายและความพร้อมของแหล่งท่องเที่ยวใหม่ๆ โดยเฉพาะเมืองรอง เช่น จังหวัด เชียงราย สุโขทัย ตราด ตรัง และแม่ฮ่องสอน  ซึ่งได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น ตลอดจนสร้างความเชื่อมั่นเรื่องความปลอดภัย

“ที่สำคัญผู้ประกอบการไทยควรทำการตลาดบนโซเชียลมีเดียจีนมากขึ้น เพื่อดึงดูดความสนใจและสอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของนักท่องเที่ยวจีนที่เชื่อถือข้อมูลบนโซเชียลมีเดียสูงมาก ซึ่งการสร้างตัวตนบนโลกออนไลน์จีนนั้น อาจมีความท้าทายจากกฎระเบียบของประเทศจีน ผู้ประกอบการไทยจึงอาจเลือกใช้บริการจากเอเจนซีผู้เชี่ยวชาญในการทำการตลาดออนไลน์บนแพลตฟอร์มของจีนแทน”

ซึ่งมีทั้งบริษัทคนไทยและบริษัทร่วมทุน โดยสามารถจัดทำเป็นบทความภาษาจีนที่น่าสนใจ เพื่อเผยแพร่ในรูปแบบและช่องทางที่เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมาย การส่งแบนเนอร์ของธุรกิจไปยังหน้าจอ WeChat ตลอดจนการใช้บุคคลที่มีอิทธิพลทางความคิดของชาวจีน (Key Opinion Leaders) ที่มีอยู่มากมายช่วยรีวิวสินค้าและบริการ

 

 

ที่มา : thumbsup.in.th

The post โอกาสธุรกิจที่ไม่ควรมองข้ามทิศทางนักท่องเที่ยวจีนมาไทยในอีก 10 ปีข้างหน้า appeared first on บริการจัดทำเว็บไซต์ e-Commerce.

]]>
ทักษะการสร้าง Event Marketing ของนักการตลาด https://www.atcreative.co.th/%e0%b8%97%e0%b8%b1%e0%b8%81%e0%b8%a9%e0%b8%b0%e0%b8%81%e0%b8%b2%e0%b8%a3%e0%b8%aa%e0%b8%a3%e0%b9%89%e0%b8%b2%e0%b8%87-event-marketing-%e0%b8%82%e0%b8%ad%e0%b8%87%e0%b8%99%e0%b8%b1%e0%b8%81%e0%b8%81/ Tue, 04 Feb 2020 02:04:58 +0000 https://www.atcreative.co.th/?p=16786 Event Marketing ถ้าจะมองให้เห็นภาพเช่น งานเปิดตัวสินค้า งานเปิดตัวพรีเซ็นเตอร์ งาน Internal Launch ที่จัดให้ทีมเซลล์ได้รู้ว่ากำลังมีสินค้าใหม่เข้ามาในตลาด หรือที่เราเห็นกันบ่อยๆ คือ Roadshow ที่ได้เข้าไปเจอกับลูกค้าจริงๆ บางครั้งงานลักษณะนี้ สามารถช่วยปิดยอดขายได้ทันที เพราะหน้างานจะมีน้องทีมงานช่วยเชียร์ขาย

The post ทักษะการสร้าง Event Marketing ของนักการตลาด appeared first on บริการจัดทำเว็บไซต์ e-Commerce.

]]>
เรามักจะเห็นคอนเทนต์ทักษะของนักการตลาดทำเว็บขายของ แต่มีอีกทักษะที่ไม่ค่อยถูกพูดถึง คือเรื่องของการสร้าง Event Marketing ที่ทำให้แผนการตลาดได้รับยอดขายเป็นไปตามเป้า และยังได้เจอกับกลุ่มเป้าหมายตัวจริงที่อยู่ตรงหน้าด้วย ทักษะนี้มีความสำคัญยังไง มาติดตามกัน

  • กระตุ้นยอดขายได้จริง

Event Marketing ถ้าจะมองให้เห็นภาพเช่น งานเปิดตัวสินค้า งานเปิดตัวพรีเซ็นเตอร์ต่างๆ งาน Internal Launch ที่จัดให้ทีมเซลล์ได้รู้ว่ากำลังมีสินค้าใหม่เข้ามาในตลาด หรือที่เราเห็นกันบ่อยๆ คือ Roadshow ที่ได้เข้าไปเจอกับลูกค้าจริงๆ บางครั้งงานลักษณะนี้ สามารถช่วยปิดยอดขายได้ทันที เพราะหน้างานจะมีทีมงานช่วยเชียร์ขาย และยังสามารถ Estimated Budget ต่อวันได้ ทำให้รู้ถึงรายได้เบื้องต้นก่อนจะจัดงานว่าจะได้เงินเพิ่มกลับเข้ามาเท่าไหร่  Event Marketing จึงเป็นเครื่องมือที่ช่วยเพิ่มยอดขายได้อย่างมาก

หากเป็นสินค้าที่ไม่ได้ทําเว็บ e-commerce เสพผ่านออนไลน์เช่น ผงชูรส เครื่องปรุงอาหาร ซึ่งพฤติกรรมคนซื้อส่วนใหญ่จะเป็นการซื้อหน้า Shelf เลยทำให้ Event Marketing ยิ่งสำคัญในการสร้างยอดขาย หรือบางสินค้าอาจจะเป็นวิธีการหลักเลยด้วยซ้ำ

  • ไม่ใช่แค่แผน แต่ต้องทำได้จริง

ทักษะการจัดงานส่วนใหญ่ จะไม่ถูกสอนในวิชาหลักของทางมหาวิทยาลัยแต่หากนักการตลาดได้เข้ามาอยู่ในสนามแข่งแล้วจะพบว่าการเปิดตัวสินค้า 1 ชิ้น ต้องลงแรงทั้งเว็บไซต์ ขาย สินค้า ออนไลน์และออฟไลน์อย่างมาก ซึ่งดีเทลการจัดงานค่อนข้างละเอียด

เช่นจัด Event 1 ครั้ง มีค่า Production อะไรบ้าง บนเวทีจะมีอะไรเกิดขึ้น ไม่ใช่แค่เราจ้างบริษัท Organize แล้วจบ เพราะคนที่ต้องเป็นผู้นำการจัดงานใหญ่จะมาจากฝั่งลูกค้าเอง ฉะนั้นทิศทางของงานจะไปในทางไหน ก็ขึ้นอยู่กับการบรีฟของฝั่งนักการตลาด ซึ่งรายละเอียดที่ฝ่ายแบรนด์จะต้องทำมีประมาณนี้ค่ะ

  • Operation : จำนวนทีมงาน, วันทำงาน
  • Production : วัสดุที่ใช้ผลิตงาน
  • Design : ดีไซน์งานที่ส่วนใหญ่จะแก้ 3 รอบขึ้นไป บางงานอาจจะเกิน 20 รอบ

การจะดูงานอีเว้นท์สักงานให้ออกมาดีได้นั้น เกิดจากการเข้าใจในตัวงานก่อน ซึ่งต้องใช้เวลา เพราะต้องพูดคุยกับหลายฝ่าย ระดมความคิดเห็นใหม่ๆ และมีความน่าสนใจให้แก่ผู้เข้าชมงานแต่ละครั้ง เรียกว่าเป็นจุดที่สูบพลังของนักการตลาดเลยก็ว่าได้

  • ยากที่สุดคือรายละเอียด

จากที่พูดไปก่อนหน้าเป็นเพียงเนื้อหาเบื้องต้นที่จะได้เจอเท่านั้น คล้ายๆ กับเป็นด่านหินที่มหาวิทยาลัยไม่ได้สอนไว้ และต้องมาเจอกันตอนทำงานจริงๆ เราจึงเห็นหลายคนที่จบการตลาดแต่ไม่ได้ทำการตลาด เพราะเมื่อมาจับงานๆ จริง ก็ไม่เหมือนแบบที่คิดไว้ ตอนมหาลัยเราแข่งแค่แผนการทำงาน แต่ตอนทำงานจริงนั้นไม่มีใครสอนนอกจากประสบการณ์ที่ได้จากการฝึกงานหรือไปมีส่วนร่วมกับการจัดงานจริงๆ  ดังนั้น ขั้นตอนระหว่างการจัดงานคือส่ิงที่ยุ่งยากที่สุด เพราะนอกจากวางแผน บรีฟงานกับคนในทีมหรือ Organize แล้วก็วิธีการสื่อสารให้ได้ผลด้วย ทำให้สกิลการจัด Event Marketing มักถูกมองข้ามทั้งที่เป็นทักษะสำคัญที่นักการตลาดทุกคนควรต้องมี ความยากลำบากในการทำงานก็เป็นเหมือนด่านในแต่ละการเติบโต ว่าเราสามารถชนะไปได้มั้ย การจัด Event Marketing ก็เป็นอีกแบบทดสอบให้เราฝ่าฟัน เค้าถึงบอกว่านัดการตลาดต้องใช้ประสบการณ์ในการทำงานเป็นหลัก แต่คงไม่ยากเกินไปหากคุณมีความพยายามที่จะทำจริงๆ และหากทำได้สำเร็จก็ถือว่าง่ายในการจัดงานครั้งต่อไปแล้ว

 

 

ที่มา : thumbsup.in.th

The post ทักษะการสร้าง Event Marketing ของนักการตลาด appeared first on บริการจัดทำเว็บไซต์ e-Commerce.

]]>
โปรโมทยังไงให้มีคนรู้จักสินค้าใหม่ของเรามากขึ้น https://www.atcreative.co.th/%e0%b9%82%e0%b8%9b%e0%b8%a3%e0%b9%82%e0%b8%a1%e0%b8%97%e0%b8%a2%e0%b8%b1%e0%b8%87%e0%b9%84%e0%b8%87%e0%b9%83%e0%b8%ab%e0%b9%89%e0%b8%a1%e0%b8%b5%e0%b8%84%e0%b8%99%e0%b8%a3%e0%b8%b9%e0%b9%89%e0%b8%88/ Fri, 31 Jan 2020 02:00:41 +0000 https://www.atcreative.co.th/?p=16716 ตอนนี้มีหลายสินค้าแบรนด์ใหม่เกิดขึ้นมาเยอะมาก และช่องทางออนไลน์ทำเว็บไซต์ ขายของก็ไม่ได้มีต้นทุนที่มากนัก ทำให้ธุรกิจหน้าใหม่สนใจอยากประหยัดค่าพื้นที่และค่าโฆษณาทําเว็บ e-commerceให้ได้มากขึ้น ถึงแม้ว่าราคายิง Ads จะสูงขึ้น แต่ถ้าเทียบกับการโฆษณาแบบยุคก่อนหน้านี้ บอกเลยว่าวิธีเหล่านี้คุ้มค่ากว่ามาก จะมาบอกวิธีการโปรโมทเบื้องต้น

The post โปรโมทยังไงให้มีคนรู้จักสินค้าใหม่ของเรามากขึ้น appeared first on บริการจัดทำเว็บไซต์ e-Commerce.

]]>
ตอนนี้มีหลายสินค้าแบรนด์ใหม่เกิดขึ้นมาเยอะมาก และช่องทางออนไลน์ทำเว็บไซต์ ขายของก็ไม่ได้มีต้นทุนที่มากนัก ทำให้ธุรกิจหน้าใหม่สนใจอยากประหยัดค่าพื้นที่และค่าโฆษณาทําเว็บ e-commerceให้ได้มากขึ้น ถึงแม้ว่าราคายิง Ads จะสูงขึ้น แต่ถ้าเทียบกับการโฆษณาแบบยุคก่อนหน้านี้ บอกเลยว่าวิธีเหล่านี้คุ้มค่ากว่ามาก จะมาบอกวิธีการโปรโมทเบื้องต้นแบบไม่ยากว่า หากคุณเป็นแบรนด์สินค้าใหม่ จะเริ่มทำการโปรโมทอย่างไรให้มีคนรู้จัก

แคมเปญสินค้าทดลอง

วิธีนี้เหมาะสำหรับแบรนด์ที่กำลังออกสินค้าใหม่ แต่สินค้ามีราคาค่อนข้างสูงหรือคนยังไม่กล้าใช้ เช่น เครื่องสำอางค์เคาน์เตอร์แบรนด์ อาหารเสริม  ก็เลือกที่จะแจก Sampling Holder ให้ได้ทดลองชิม ตามสถานที่สาธารณะต่างๆ อย่างบริเวณรถไฟฟ้า ห้างสรรพสินค้า หรือหน้าตึกออฟฟิศที่มีคนพลุกพล่าน

วิธีที่เราแนะนำนี้ เป็นแบบเดียวกับที่แบรนด์ใหญ่ใช้งานกัน อย่างที่กล่าวไปข้างต้น แค่ปรับมาอยู่บนคอนเทนต์ออนไลน์ ทำให้ได้ยอดขายไม่ต่างกัน จากที่เห็นการทำตลาดส่วนใหญ่ จะเป็นการกรอกแบบฟอร์ม และให้ผู้ร่วมสนุกมารับสินค้าทดลองใช้ ที่หน้าเคาน์เตอร์หรือจัดส่งถึงบ้าน โดยวิธีนี้จะทำให้เราได้ข้อมูลส่วนตัวของลูกค้าที่ให้ความสนใจ สามารถนำไปโฆษณาต่อได้อีกในอนาคต

รีวิวรับส่วนลด

เป็นอีกหนึ่งวิธีเบสิคที่แบรนด์ส่วนใหญ่ใช้งานกัน เพราะเป็นคอนเทนต์ที่ลูกค้าพูดเอง ซึ่งสร้างความเชื่อถือได้มากกว่าแบรนด์ออกมาพูดเอง แต่วิธีนี้จะติดตรงนี้ส่วนใหญ่กิจกรรมจะ Like & Share ทำให้การดึงดูดคนเข้ามาจะน้อย เพราะรู้ว่ามีการโฆษณา แต่สิ่งที่แบรนด์ได้คือกระตุ้นให้เกิดการซื้อซ้ำอีกครั้งหนึ่ง จากที่เห็นการใช้งานส่วนใหญ่จะเป็นพวกแบรนด์เสื้อผ้า หรือห้างสรรพสินค้าที่ชอบแนบส่วนลดท้ายใบเสร็จว่า หากซื้อครั้งถัดไปจะได้ส่วนลดจากปกติกี่ % ก็ว่าไป

กิจกรรมสุ่มแจก

วิธีนี้ส่วนใหญ่จะอยู่บน Twitter ที่เหล่า Micro Influencer ใช้ในการโปรโมทช่องทางรับทำเว็บไซต์ขายสินค้า ของตนเอง เช่น สุ่มแจกลิปสติก 5 แท่งแค่กดติดตามเท่านั้น ซึ่งจากที่สังเกต จะเห็นว่าแบรนด์เหล่านี้มียอดฟอลโลว์ทะลุ 5,000 บัญชีขึ้นไปทั้งนั้น เเละยังทำให้มีคนติดตาม Twitter แบรนด์ของเรามากขึ้นอีกด้วย ส่วนใหญ่จะเห็นได้เยอะกับสาย Beauty Blogger เพราะส่งต่อกันเร็ว แต่ถ้าช่องทาง Facebook จะเป็นกลุ่ม Food Blogger ที่เน้นแจกบัตรกำนัลอาหารซะมากกว่า

คอนเทนต์เกม

ด้านบนเป็นกิจกรรมการแจกกันหมดแล้ว มาดูวิธีการดึงดูดกันบ้าง นั่นคือการใช้ Content Creative เข้ามาช่วยเสริม ซึ่งเป้าหมายของคอนเทนต์แนวนี้คือการสร้าง Engagement นั่นแสดงว่ากลุ่มเป้าหมายของคุณกล้าที่จะเข้ามาสร้างบทบาทในช่องทางของเรา ซึ่งคอนเทนต์เกมจะดึงดูดง่ายที่สุด เช่น ฉายาของคุณเมื่อช็อปออนไลน์ โดยใช้เกณฑ์ออกแนวดวงนิดๆ คือ ดูจากวันที่เกิด หรือเลขสุดท้ายเบอร์โทรศัพท์

ยิง Ads รัวๆ

ในเมื่อเราทำมาทั้งหมดด้านบนแล้ว มาถึงการโปรโมทพื้นฐานที่ได้ใช้แน่นอนนั่นก็คือการ ยิงแอดโฆษณา หลายคนเลือกที่จะประหยัดวิธีนี้ แต่บางคนก็มองว่าป็นเครื่องทุ่นแรงที่ดีที่สุด วิธีนี้อยากให้มองว่าเป็นสปริงสำหรับทุกกิจกรรมด้านบนให้ออกมาสมบูรณ์กว่าเดิมมากกว่า จะมีงบเท่าไหร่ขึ้นอยู่กับแต่ละคน หากมีกำลังทรัพย์มากขึ้นและอยากให้ได้ผลมากขึ้น สามารถจ้าง Media Bidable ในการตั้งค่าบูสต์เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพได้มากที่สุด (มากกว่าการที่เรามาทำเอง)

จริงๆ แล้วรูปแบบการโฆษณาเหล่านี้ไม่ได้มีวิธีตายตัวมากขนาดนั้น ต้องมองให้ออกก่อนว่า กลุ่มลูกค้าของคุณคือใคร สินค้าประเภทไหน และเจาะตลาดพื้นที่ใด หรือจะลองใช้วิธีคิดของ Buyer Persona เพื่อให้เราเข้าใจกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น ยิ่งเราเข้าใจพวกเขาได้ตรงจุดเท่าไหร่ การใช้เงินไปกับการคลำทางหากลยุทธ์ที่เหมาะสมก็น้อยลง ทั้งประหยัดงบการตลาดทำเว็บไซต์ e-commerce และยังได้ประสิทธิภาพที่ดีขึ้นด้วย

 

ที่มา : thumbsup.in.th

The post โปรโมทยังไงให้มีคนรู้จักสินค้าใหม่ของเรามากขึ้น appeared first on บริการจัดทำเว็บไซต์ e-Commerce.

]]>
โฆษณาผ่าน Googleด้วย LnwX ตัวช่วยในการขายของออนไลน์ให้คุณได้ง่ายและสะดวกกว่าเดิม https://www.atcreative.co.th/%e0%b9%82%e0%b8%86%e0%b8%a9%e0%b8%93%e0%b8%b2%e0%b8%9c%e0%b9%88%e0%b8%b2%e0%b8%99-google%e0%b8%94%e0%b9%89%e0%b8%a7%e0%b8%a2-lnwx-%e0%b8%95%e0%b8%b1%e0%b8%a7%e0%b8%8a%e0%b9%88%e0%b8%a7%e0%b8%a2/ Thu, 30 Jan 2020 02:00:12 +0000 https://www.atcreative.co.th/?p=16721 แม้ว่าในโลกการค้าอิเล็กทรอนิกส์ของไทยจะเจริญเติบโตขึ้นเป็นอย่างมากในรูปแบบต่อเนื่อง แต่แบรนด์ทําเว็บขายของออนไลน์ยังต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็ว ทั้งจากพฤติกรรมของผู้บริโภค และความหลากหลายของช่องทางการ

The post โฆษณาผ่าน Googleด้วย LnwX ตัวช่วยในการขายของออนไลน์ให้คุณได้ง่ายและสะดวกกว่าเดิม appeared first on บริการจัดทำเว็บไซต์ e-Commerce.

]]>
แม้ว่าในโลกการค้าอิเล็กทรอนิกส์ของไทยจะเจริญเติบโตขึ้นเป็นอย่างมากในรูปแบบต่อเนื่อง แต่แบรนด์ทําเว็บขายของออนไลน์ยังต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็ว ทั้งจากพฤติกรรมของผู้บริโภค และความหลากหลายของช่องทางการค้าขาย ทำให้ต้องปรับตัวเป็นอย่างมาก ผู้ให้บริการระบบจัดการอีคอมเมิร์ซ ทําเว็บ e-commerceครบวงจร จึงร่วมมือกับ Google ผู้นำเทคโนโลยีระดับโลก เปิดตัวแพลตฟอร์มใหม่ สุดยอดเครื่องมือโฆษณา Google Shopping Ads ที่ง่าย และทรงพลัง เพื่อเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยผลักดันให้แบรนด์ออนไลน์สามารถเข้าถึงผู้ซื้อได้มากยิ่งขึ้น

LnwX

ผู้ช่วยสำคัญในการขายสินค้าออนไลน์ ที่ให้คุณสามารถลงโฆษณาสินค้าบน Google ได้ทันที โดยไม่จำเป็นต้องมีร้านค้าที่อยู่ภายใต้ LnwShop ไม่ต้องมี Website ของตัวเองก่อน เรียกได้ว่าใครชอบขายผ่าน Social ตัวนี้ตอบโจทย์ 100%

Painpoint การโฆษณาร้านค้าแบบเดิม

สมัยก่อนถ้าเราต้องการลงโฆษณาบนเว็บไซต์อย่าง Google เราจะต้อง Bid ราคาแข่งกันสูงมาก และอาจจะไม่ได้ผลลัพธ์ดีเท่าที่ควรซึ่ง LnwX จะเป็นแพลตฟอร์ม สำหรับการลงโฆษณา Google Shopping ADS โดยเฉพาะ ซึ่งการโฆษณาผ่าน Google Shopping ADS นี้มีจุดเด่นในด้านที่ลูกค้าสามารถดูสินค้าหรือราคารวมไปถึงการกดสั่งซื้อได้อย่างรวดเร็วผ่านหน้านี้ได้ทันทีอีกด้วย

 

ซึ่งใน 10 ปีที่ผ่านมา Lnwshop รองรับทุกความต้องการของระบบ E-Commerce จริง ๆ ตั้งแต่หน้าเว็บสวยงาม ใช้งานง่าย ระบบหลังบ้านตอบโจทย์ทุกธุรกิจ ระบบ Support ที่ดี มีการตอบกลับลูกค้าอย่างมีประสิทธิภาพ และระบบการจัดการคลังสินค้า การเชื่อมต่อการขายไปในทุก ๆ ช่องทางการจัดจำหน่าย โดยเฉพาะ Marketplace หลักเช่น Lazada Shopee เป็นต้น โดยไม่จำเป็นต้องนำข้อมูลไปกรอกด้วยตัวเอง และระบบการสั่งซื้อที่เราสามารถนำ Order จากทุกช่องทางมาจัดการในที่เดียวกันได้ ทำให้สะดวกในการใช้งานอย่างมาก

และในเรื่องของการเงิน ยังจับมือกับทุก ๆ ธนาคาร และสามารถชำระเงินผ่านระบบ Wallet ต่าง ๆ รวมถึงระบบการโอนเงินผ่านธนาคาร หรือการเก็บเงินปลายทางก็ทำได้เช่นกัน

ทำไมต้องใช้ LnwX?

หลัก ๆ คือเรื่องของการใช้งานที่เริ่มต้นง่ายมากแค่ 3 ขั้นตอน

  • กำหนดงบประมาณโฆษณาต่อวัน
  • ลงข้อมูลสินค้า และแพลตฟอร์ม ที่เราวางจำหน่าย
  • พร้อมโฆษณาทันที

นอกจากนี้ยังมีความสะดวกในการควบคุม Stock ซื้อสินค้าได้ทุกช่องทางที่เราวางจำหน่ายไม่ว่าจะเป็น Lazada Shopee หรือแม้แต่ LINE Facebook ก็สามารถสร้าง Bill Online ให้กับลูกค้าก็ได้ทันที

และนอกจากนี้จุดเด่นสำคัญของการโฆษณาผ่าน LnwX นี้คือ มีระบบ SMART Shopping Campaign ซึ่งระบบนี้จะใช้ AI ในการคิดการโฆษณาสินค้าที่มีประสิทธิภาพที่สุด ไม่ต้องกำหนด Keyword CPC CPM ฯลฯ อะไรเลยซึ่งจะคอยติดตามผู้ค้นหาว่า มีการสั่งซื้อสินค้าจริง ๆ หรือไม่ ไม่ใช้แค่โฆษณาแล้วเกิดยอด Click เพียงอย่างเดียว

LnwX ดึงลูกค้าสู่แบรนด์ออนไลน์ ด้วยงบเริ่มต้นเพียง 0.83 บาท/คลิก

ด้วยรูปแบบการโฆษณาแบบ Google Shopping Ads ผ่าน LnwX นั้น นอกจากจะทำให้ผู้ซื้อและผู้ขายได้เจอกันผ่าน Google Search แล้ว ยังพาข้อมูลสินค้าของผู้ซื้อให้กระจายไปยังช่องทางต่าง ๆ อาทิ Youtube, Gmail, Search Network และ Display Network ของกูเกิ้ล ซึ่งสามารถเข้าถึงผู้ซื้อได้มากกว่า 8 ล้านคน โดยที่ใช้งบโฆษณาเฉลี่ยเพียง 0.83 บาทเท่านั้น นอกจากนี้การทำโฆษณา Google Shopping ยังมีค่าเฉลี่ยในการสร้าง Conversion Rate ถึง 9 เท่าจากงบโฆษณา

เริ่มต้นง่าย ไม่มีเว็บก็ทำได้พร้อมเชื่อมต่อทุกช่องทางการขาย

ผู้ขายในปัจจุบันเริ่มขยายช่องทางการขายรับทำเว็บไซต์ขายของออนไลน์ ไปยังช่องทาง Social Media หรือ Marketplace และไม่มีเว็บไซต์เป็นของตัวเอง แต่การทำโฆษณา Google Shopping ก็จำเป็นต้องใช้เว็บไซต์ที่มีระบบตะกร้าสินค้าในการทำ ซึ่งจุดนี้เป็นปัญหาหลักสำหรับแบรนด์ออนไลน์ไทยบริการของ  จึงมีระบบสร้าง Sale Page ฟรี สำหรับใช้ในการทำ Google Shopping Ads ซึ่งหน้า Sale Page ดังกล่าวก็จะมีการเชื่อมต่อไปยังช่องทางการขายต่าง ๆ ของแบรนด์ ไม่ว่าผู้ขายจะมีกี่ช่องทางการขาย ก็สามารถเชื่อมต่อ และนำลูกค้าจาก Shopping Ads ไปถึงได้โดยไม่ต้องพัฒนาเว็บไซต์เพิ่มแต่อย่างใด

สรุป

InwX เป็นการรวบรวมเอาทุกความต้องการของ E-Commerce เป็นเครื่องมือที่เชื่อว่าจะช่วยให้ธุรกิจไทยสามารถโฆษณาผ่าน Google ได้อย่างง่ายดาย สามารถเชื่อมต่อกับร้านค้าออนไลน์อย่าง Lazada หรือ Shopee และเป็นเจ้าแรกในประเทศไทยที่รองรับการโฆษณาผ่าน Google Shopping ADS มั่นใจได้ว่าโฆษณาผ่าน LnwX แล้ว ขายสินค้าได้มากขึ้นอย่างแน่นอน

โดยเริ่มต้นค่าโฆษณาที่เพียง 100 บาทต่อวันเท่านั้น โดยมีโปรโมชันถึง 31 ธันวาคม 2562 นี้ เมื่อลงโฆษณากับ LnwX รับฟรีเครดิตโฆษณาเพิ่มสูงสุด 30% ทันทีเมื่อใช้มูลค่าโฆษณาสูงสุด 1,000 บาทต่อวัน

 

ที่มา : beartai.com

The post โฆษณาผ่าน Googleด้วย LnwX ตัวช่วยในการขายของออนไลน์ให้คุณได้ง่ายและสะดวกกว่าเดิม appeared first on บริการจัดทำเว็บไซต์ e-Commerce.

]]>
Lazada 12.12 แคมเปญเดียวยอดพุ่งเทียบเท่ายอดขายตลอด 7 ปีของ LAZADA https://www.atcreative.co.th/lazada-12-12-%e0%b9%81%e0%b8%84%e0%b8%a1%e0%b9%80%e0%b8%9b%e0%b8%8d%e0%b9%80%e0%b8%94%e0%b8%b5%e0%b8%a2%e0%b8%a7%e0%b8%a2%e0%b8%ad%e0%b8%94%e0%b8%9e%e0%b8%b8%e0%b9%88%e0%b8%87%e0%b9%80%e0%b8%97/ Wed, 29 Jan 2020 02:00:40 +0000 https://www.atcreative.co.th/?p=16712 สถิติที่น่าสนใจจากแคมเปญ  Lazada 12.12 แกรนด์เซล ส่งท้ายปี ในปีนี้ประเทศไทยทําเว็บ e-commerceทำลายสถิติจำนวนผู้ใช้งานแอคทีฟและยอดขายสูงสุดในรอบ 7 ปี ทำลายทุกสถิติที่เคยมีมาทั้งหมด ทั้งนี้ ภายใน 1 ชั่วโมงแรก จำนวนคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้นกว่า 3 เท่า 

The post Lazada 12.12 แคมเปญเดียวยอดพุ่งเทียบเท่ายอดขายตลอด 7 ปีของ LAZADA appeared first on บริการจัดทำเว็บไซต์ e-Commerce.

]]>
สถิติที่น่าสนใจจากแคมเปญ  Lazada 12.12 แกรนด์เซล ส่งท้ายปี ในปีนี้ประเทศไทยทําเว็บ e-commerceทำลายสถิติจำนวนผู้ใช้งานแอคทีฟและยอดขายสูงสุดในรอบ 7 ปี ทำลายทุกสถิติที่เคยมีมาทั้งหมด ทั้งนี้ ภายใน 1 ชั่วโมงแรก จำนวนคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้นกว่า 3 เท่า จากปีที่แล้ว โดยข้อมูลเชิงลึกยังพบว่านักช้อป ใช้เวลานานขึ้นบนแอปทำเว็บขายของ   กว่า 60% จากช่วงเวลาปกติ และระหว่างช่วงแคมเปญ 3 วัน สินค้าประเภทแฟชั่นได้รับยอดคำสั่งซื้อสูงสุด นอกจากนี้ จำนวนผู้ขายรับทำเว็บไซต์ขายสินค้า บนลาซาด้าโตเพิ่มกว่า 100% เมื่อเทียบกับแคมเปญเดียวกันเมื่อปีที่แล้ว

ความสำเร็จของแคมเปญ Lazada 12.12 แกรนด์เซล ส่งท้ายปี  ปี 2019 ถือเป็นอีกหนึ่งไมล์สโตนที่สำคัญของลาซาด้า ประเทศไทย การสร้างสรรค์นวัตกรรมการให้บริการใหม่ๆ ที่มีส่วนผลักดันให้ลาซาด้าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากในปีนี้

การเดินหน้าพัฒนาการให้บริการมากมายอย่างไม่หยุดยั้ง ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อตอบโจทย์ทั้งผู้ซื้อ และผู้ขาย มุ่งสู่เป้าหมายการเป็นมากกว่าแพลตฟอร์มช้อปปิ้ง โดยโครงการที่สำคัญที่ริเริ่มในปีนี้ ได้แก่

  • สร้างภาพลักษณ์แบรนด์ใหม่ และเป็นผู้ริเริ่มกลยุทธ์ช้อปเปอร์เทนเมนต์ที่นำเข้ามาใช้ในประเทศไทย อาทิ LazLive ไลฟ์สตรีมบนแพลตฟอร์มการสร้างประสบการณ์แบบ See Now Buy Now ผ่านแฟชั่นโชว์, LazGame อินเทอร์แอคทีฟเกมบนแพลทฟอร์ม และ Guess It! ถูกแน่แค่ทาย รายการทายราคายอดฮิต
  • สร้างแคมเปญช้อปปิ้งใหม่ที่เจาะจงกลุ่มลูกค้า และช่วงเวลาเพิ่มขึ้น ได้แก่ Women’s Festival และ Mid-year Festival
  • ยกระดับขีดความสามารถในจุดแข็งของธุรกิจ 3 ด้าน อาทิ โลจิสติกส์ การชำระเงิน และเทคโนโลยี โดยในปี 2019 สินค้าที่ถูกสั่งซื้อและจัดส่งโดยลาซาด้ามีจำนวนมากกว่าจำนวนประชากรไทยทั้งประเทศ อีกทั้งยังมีการเปิดตัวบัตรเครดิตโคแบรนด์เป็นครั้งแรกภายใต้ชื่อ “ซิตี้ ลาซาด้า” (Citi Lazada) ซึ่งเป็นบัตรเครดิตโคแบรนด์อีคอมเมิร์ซบัตรแรกในภูมิภาคด้วย

ปิดท้ายปี 2019  ลาซาด้ายังได้รวบรวมข้อมูลที่สุดแห่งปีของนักช้อปไทยบนแอปฯ ลาซาด้า ของปี 2019 

  • มือถือ ครองแชมป์สินค้าที่มียอดขายดีที่สุด
  • เติมเงินมือถือ ครองแชมป์สินค้าที่มีจำนวนคำสั่งซื้อมากที่สุด
  • กระเป๋าสะพาย เป็นสินค้าถูกค้นหามากที่สุด
  • สินค้าไลฟ์สไตล์ โดนใจนักช้อปมากที่สุด
  • LazGame Shop & Match คือเกมส์สุดฮิตที่มีนักช้อปเล่นมากที่สุด
  • วันจันทร์ คือวันคนช้อปเยอะที่สุด
  • 10-11 โมง คือช่วงเวลาที่คนช้อปเยอะที่สุด

แบรนด์ยอดนิยมใน LazMall ยังคงเป็นแบรนด์ดังที่หลายคนรู้จัก เพราะยังได้ความเชื่อมั่นในเรื่องของคุณภาพสินค้าและการจัดส่งที่รวดเร็วทำให้นักช้อป หันมานิยมใช้จ่ายผ่านแพลตฟอร์มมากขึ้น

 

 

ที่มา : www.thumbsup.in.th

The post Lazada 12.12 แคมเปญเดียวยอดพุ่งเทียบเท่ายอดขายตลอด 7 ปีของ LAZADA appeared first on บริการจัดทำเว็บไซต์ e-Commerce.

]]>
สำรวจเทศกาล 12.12 ใน LAZADA หูฟังขายดีสุด!! https://www.atcreative.co.th/%e0%b8%aa%e0%b8%b3%e0%b8%a3%e0%b8%a7%e0%b8%88%e0%b9%83%e0%b8%99%e0%b9%80%e0%b8%97%e0%b8%a8%e0%b8%81%e0%b8%b2%e0%b8%a5-12-12/ Tue, 28 Jan 2020 02:00:27 +0000 https://www.atcreative.co.th/?p=16708 เมื่อวันที่ 12 ธันวาคมที่ผ่านมา เรียกได้ว่าเป็นเทศกาลส่งท้ายปีที่ทำเว็บขายของ นักช้อปกำลังรอคอยกันมากที่สุด ซึ่งในสถิติของลาซาด้าของเทศกาล 12.12 ปีนี้ สินค้ากลุ่มที่ขายดีที่สุดคือ “หูฟัง” ที่ทุบสถิติยอดคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้น 3 เท่าในชั่วโมงแรก เรียกได้ว่าทุบสินค้ากลุ่มอื่นๆ อย่างคาดไม่ถึงทาง ลาซาด้า ผู้นำทําเว็บ e-commerce แห่งภูมิภาคตะวันออกเฉียงใต้

The post สำรวจเทศกาล 12.12 ใน LAZADA หูฟังขายดีสุด!! appeared first on บริการจัดทำเว็บไซต์ e-Commerce.

]]>
เมื่อวันที่ 12 ธันวาคมที่ผ่านมา เรียกได้ว่าเป็นเทศกาลส่งท้ายปีที่ทำเว็บขายของ นักช้อปกำลังรอคอยกันมากที่สุด ซึ่งในสถิติของลาซาด้าของเทศกาล 12.12 ปีนี้ สินค้ากลุ่มที่ขายดีที่สุดคือ “หูฟัง” ที่ทุบสถิติยอดคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้น 3 เท่าในชั่วโมงแรก เรียกได้ว่าทุบสินค้ากลุ่มอื่นๆ อย่างคาดไม่ถึง

ทาง ลาซาด้า ผู้นำทําเว็บ e-commerce แห่งภูมิภาคตะวันออกเฉียงใต้ สร้างสถิติใหม่อีกครั้งจากแคมเปญ “Lazada 12.12 Grand Year End Sale แกรนด์เซล ส่งท้ายปี” ทุบสถิติยอดคำสั่งซื้อรับทําเว็บไซต์ ขายสินค้า ในชั่วโมงแรกโตกว่า 3 เท่าเมื่อเทียบกับแคมเปญ 12.12 เมื่อปีที่ผ่านมา ส่วนหูฟังเป็นสินค้ายอดฮิตบนแพลทฟอร์มลาซาด้าที่สร้างยอดขายสูงสุดในชั่วโมงแรก

 

สถิติอื่นๆ ที่น่าสนใจภายในชั่วโมงแรกของแคมเปญ 12.12 ประเทศไทย  (00.00-01.00 น.)

  • ประเภทสินค้าที่มียอดขายสูงสุด ได้แก่

o   เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน

o   สินค้าไลฟ์สไตล์

o   โทรศัพท์มือถือ

 

  • ประเภทสินค้าที่มีจำนวนออเดอร์สูงสุด ได้แก่

o   สุขภาพและความงาม

o   แฟชั่น

o   สินค้าไลฟ์สไตล์

 

  • สินค้า 3 อันดับที่มียอดขายสูงสุดบนลาซาด้า

o   Apple AirPods (2019 edition)

o   Apple iPhone 7 Plus (32 GB)

o   หูฟัง Sennheiser Momentum True Wireless

The post สำรวจเทศกาล 12.12 ใน LAZADA หูฟังขายดีสุด!! appeared first on บริการจัดทำเว็บไซต์ e-Commerce.

]]>
Alibaba ซื้อกิจการ Lazada ทุ่มเงิน 1 พันล้านเหรียญสหรัฐ https://www.atcreative.co.th/alibaba%e0%b8%8b%e0%b8%b7%e0%b9%89%e0%b8%ad%e0%b8%81%e0%b8%b4%e0%b8%88%e0%b8%81%e0%b8%b2%e0%b8%a3lazada%e0%b8%97%e0%b8%b8%e0%b9%88%e0%b8%a1%e0%b9%80%e0%b8%87%e0%b8%b4%e0%b8%99/ Mon, 27 Jan 2020 01:00:03 +0000 https://www.atcreative.co.th/?p=16703 Alibaba ยักษ์ใหญ่แห่งวงการทําเว็บ e-commerce สัญชาติจีน ประกาศทุ่มเงิน 1 พันล้านเหรียญสหรัฐ รวบกิจการ Lazada เป็นที่เรียบร้อย พร้อมตั้งเป้าบุกตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างเต็มตัว จากการประกาศของ Alibaba ระบุว่าการทุ่มเงิน 1 พันล้านเหรียญสหรัฐ ซื้อกิจการ Lazada

The post Alibaba ซื้อกิจการ Lazada ทุ่มเงิน 1 พันล้านเหรียญสหรัฐ appeared first on บริการจัดทำเว็บไซต์ e-Commerce.

]]>
Alibaba ยักษ์ใหญ่แห่งวงการทําเว็บ e-commerce สัญชาติจีน ประกาศทุ่มเงิน 1 พันล้านเหรียญสหรัฐ รวบกิจการ Lazada เป็นที่เรียบร้อย พร้อมตั้งเป้าบุกตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างเต็มตัว จากการประกาศของ Alibaba ระบุว่าการทุ่มเงิน 1 พันล้านเหรียญสหรัฐ ซื้อกิจการ Lazada ครั้งนี้ แบ่งเป็นการซื้อหุ้นจากผู้ถือหุ้นเดิม500 ล้านเหรียญสหรัฐ และอีก 500 ล้านเหรียญสหรัฐ เป็นการลงทุนเพิ่ม ซึ่งเป้าหมายของการซื้อกิจการครั้งนี้ Michael Evans ประธานของ Alibaba ระบุชัดว่า การลงทุนกับ Lazada จะช่วยให้ Alibaba เข้าถึงฐานลูกค้าและกลุ่มผู้บริโภคจำนวนมหาศาลนอกประเทศจีน ซึ่งนับว่าการลงทุนครั้งนี้เป็นพื้นฐานที่สำคัญที่จะขยายการเติบโตของธุรกิจ  E-Commerce ทั่วโลกในอนาคต นอกจากนี้การลงทุนยังช่วยเชื่อมโยงแบรนด์, ผู้จัดจำหน่าย และผู้บริโภคที่ Lazada มี และขยาย ecosystem ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พร้อมสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้ารับทําเว็บขายของออนไลน์ได้มากขึ้น

lazada-1

สำหรับ Lazada เป็นที่รู้จักดีที่ฐานะบริษัทด้านรับทำ e-commerce ชั้นนำ  มีสำนักงานใหญ่อยู่ในประเทศสิงคโปร์ ก่อตั้งโดย Rocket Internet เมื่อปี 2011 และในปี 2014 Lazada ได้ขยายธุรกิจออกไปยังประเทศอินโดนิเซีย, มาเลเซีย , ฟิลิปปินส์ , สิงคโปร์ , ไทย และเวียดนาม จนกลายเป็นบริษัทด้าน E-Commerce ที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ก่อนที่ล่าสุดจะถูกซื้อกิจการไปโดย Alibaba ในที่สุด

 

ที่มา : sanook.com

The post Alibaba ซื้อกิจการ Lazada ทุ่มเงิน 1 พันล้านเหรียญสหรัฐ appeared first on บริการจัดทำเว็บไซต์ e-Commerce.

]]>