เจาะลึก 5 ลักษณะเด่นของตลาดอีคอมเมิร์ซในไทย

เจาะลึก 5 ลักษณะเด่นของตลาดอีคอมเมิร์ซในไทย
10
Feb

ประเทศไทย ถึงแม้ไม่ได้เป็นประเทศที่มีประชากรเยอะที่สุดหรือร่ำรวยที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีรับทำ e-commerce ชั้นนำ ที่ใหญ่เป็นอันดับสี่ในภูมิภาค มูลค่าตลาดสูงถึง 900 ล้านเหรียญสหรัฐ และคาดว่าจะโตขึ้น 12 เท่า เป็นมูลค่าถึง 11.1 พันล้านเหรียญสหรัฐภายในปี 2025

ตลาดอีคอมเมิร์ซไทยที่กำลังเป็นที่สนใจในปัจจุบันมีลักษณะอย่างไร และคาดว่าในปีข้างหน้าจะเกิดอะไรขึ้น ecommerceIQ แชร์ข้อมูลผ่าน ECOMScape: ประเทศไทย ดังนี้

1.   Lazada เป็นผู้นำตลาด Marketplace ระหว่างที่อีคอมเมิร์ซเจ้าอื่นแข่งขันแย่งชิงตลาดนิช

แตกต่างจากประเทศอื่นในทวีป ประเทศไทยมี Lazada เป็นผู้นำตลาด e-commerce อย่างชัดเจน จากจำนวน Traffic คนเข้าเว็บในแต่ละเดือน คู่แข่งในตลาดอย่าง WeLoveShopping.com และ Wemall.com รวมกันได้เป็นจำนวนแค่ ¼ ของ Traffic ของ Lazada ด้วยซ้ำ
แต่ถึงแม้ Lazada มี Alibaba อีคอมเมิร์ซยักษ์จากจีนเป็นผู้สนับสนุนอยู่ Lazada ยังไม่สามารถหยุดยั้งผู้ค้าออนไลน์รายอื่นไม่ให้มาแย่งชิงตลาดได้ ยกตัวอย่างเช่น 11street อีคอมเมิร์ซเจ้าใหญ่จากเกาหลีคาดว่าจะเปิดตัวในประเทศไทยภายในฤดูช้อปปิ้งแห่งปีของ Lazada แคมเปญ 11/11 11street ตั้งเป้าหมายสูงและหวังจะตีตลาดออนไลน์ในไทยตามรอยตลาดในประเทศอินโดนีเซียและมาเลเซีย นอกจากนั้น11street ได้ประกาศมูลค่าสินค้าประจำปีในเคลือสูงถึง 7 พันล้านเหรียญสหรัฐ นับเป็นมูลค่าที่สูงกว่ามูลค่าสินค้าของกลุ่ม Lazada ถึง 7 เท่า  มาดูกันว่า 11street จะสามารถท้าทาย Lazada ในประเทศไทยได้หรือไม่?
นอกจากผู้ค้าอีคอมเมิร์ซจากต่างประเทศ กลุ่มบริษัทยักษ์ใหญ่ในประเทศเข้ามาแย่งชิงตลาดออนไลน์ไทยเช่นกัน เครือเจริญโภคภัณฑ์ของตระกูลเจียรวนนท์ ตระกูลที่ร่ำรวยที่สุดในไทย มีธุรกิจทั้งออนไลน์และออฟไลน์ เช่น Tesco Lotus, Shopat24 และ 24Catalog นายเจริญ สิริวัฒนภักดี บุคคุลที่ร่ำรวยอำดับ 2 ในไทยได้ซื้อ BigC และ Cmart (เปลียนชื่อจาก Cdisount)ในปีนี้ และตระกูลจิราธิวัฒน์ผู้บริหารเครือเซ็นทรัลมีห้างสรรพสินค้าออนไลน์ Central.co.th, Robinson และ Tops เช่นเดี่ยวกัน

ECOMScape-Thailand-3

2. ผู้ค้ามือใหม่กำลังแซงผู้ค้าเจ้าเก่าในตลาด C2C

อีคอมเมิร์ซรูปแบบ Customer-to-Customer (C2C) นับเป็นอีคอมเมิร์ซรูปแบบแรกๆของไทยที่ยังได้รับความยมอย่างต่อเนื่อง C2C Marketplace ที่ก่อตั้งมานานและเป็นที่นิยมอย่าง WeLoveShopping, Tarad และ Pramool ถูกบริหารโดยทีมงานท้องถิ่น แต่ปัจจุบันกำลังโดนถูกผู้เล่นต่างชาติอย่าง Shopee ที่มี Garena บริษัทเกมส์ยักษ์ใหญ่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นผู้สนับสนุน นำแพลตฟอร์มใหม่ๆเข้ามาแย่งตลาด C2C
ในขณะที่เว็บไซต์ Tarad และ Pramool เข้าได้ผ่านคอมพิวเตอร์เท่านั้น แพลตฟอร์มของ Shopee Blisby และ WeLoveShopping มีแอพพลิเคชั่นบนมือถือของเว็บไซต์ ขาย สินค้า ออนไลน์ที่ติดอันดับ ท้อป 10 แอพพลิเคชั่นช้อปปิ้งแบบ C2C ที่เป็นที่นิยมที่สุดในไทย แอพพลิเคชั่นเหล่านี้ถูกสร้างมาเพื่อตอบสนองพฤติกรรมช้อปปิ้งออนไลน์บนมือถือของคนไทย เนื่องจากประมาณ 85% ของคนที่อาศัยอยู่นอกหัวเมืองนิยมช้อปปิ้งผ่านมือถือ แพลตฟอร์มใหม่ๆเหล่านี้แสดงให้เห็นว่าผู้ค้ามือใหม่กำลังแซงผู้ค้าเจ้าเก่าไปแล้ว

3. Facebook, Instagram และ LINE ขับเคลื่อนกระแส Social Commerce ในประเทศไทย

Social Commerce คือรูปแบบธุรกิจอีคอมเมิร์ซที่เหมาะสมและตอบสนอง Lifestyle ของคนไทย ผู้ค้าไทยสร้างเว็บไซต์ ขาย สินค้า ออนไลน์ร้านค้าบน Facebook และ Instagram เพื่อโพสต์ภาพสินค้าและเพื่อให้ลูกค้าที่สนใจเข้ามาดูและสอบถามรายละเอียดก่อนตัดสินใจซื้อ
นักช้อปออนไลน์เกินครึ่งในประเทศไทยเคยช้อปจากผู้ค้าผ่าน Social Network โดยตรง
ตามรายงาน PwC ประเทศไทยมีตลาด Social Commerce ที่ใหญ่ที่สุดและนักช้อปออนไลน์เกินครึ่งในประเทศไทยเคยซื้อสินค้าจากผู้ค้าโดยตรงผ่าน Social Network ดังนั้นมันก็ไม่เป็นที่แปลกเมื่อ Facebook เริ่มการทดสอบระบบการชำระเงินในเดือนมิถุนายน และเปิดให้ใช้เป็นครั้งแรกในไทยประเทศเป็นประเทศแรกในเดือนสิงหาคม

ECOMScape-Thailand-5

 4. เงินสดยังเป็นช่องทางการชำระที่สำคัญที่สุด 

ในปัจจุบัน ประเทศไทยยังคงเป็นสังคมที่ให้ความสำคัญกับการจ่ายตังด้วยเงินสด ซึ่ง 70% ของ ลูกค้าอีคอมเมิร์ซเลือกใข้เป็นช่องทางการชำระ ด้วยเหตุนี้ การเติบโตของอีคอมเมิร์ซจึงน่าเป็นห่วง เนื่องด้วยผู้ขายส่วนใหญ่ไม่สามารถรองรับ COD (Cash on Deliver) หรือการชำระด้วยเงินสดได้ แม้ว่า บริษัทโทรคมนาคม สถาบันการเงิน หรือบริการอื่นๆ พยายามจะนำเสนอ Mobile Wallet เพื่อเป็นช่องทางการชำระเงินแบบออนไลน์ แต่ก็ยังไม่มีบริการไหน ที่สามารถเข้ามาแก้ปัญหานี้ได้
ถึงแม้บริษัทโทรคมนาคม สถาบันการเงิน หรือบริการอื่นๆ พยายามจะนำเสนอ Mobile Wallet การชำระด้วยเงินสดก็ยังเป็นช่องทางชำระเงินที่สำคัญที่สุด

ECOMScape-Thailand-6

5. การแข่งขันของบริษัท Logistic นำไปสู่การตัดราคาในที่สุด

การเจริญเติบโตของอีคอมเมิร์ซในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ช่วยให้ Logistic Startup ที่มุ่งจะแก้ปัญหาเรื่องระบบขนส่ง เช่น การขนส่งข้ามวัน หรือ การติดตาม Live-Tracking เป็นไปได้ดีเยี่ยม ซึ่งประเทศไทยเอง ก็เป็นหนึ่งในนั้นด้วย
ความสำเร็จ ของ Uber และ Grab เป็นแรงผลักดันให้ Startup หลายๆที่ นำเสนอระบบส่งสินค้า แบบ on-demand มากขึ้น
มีบริษัทหลากหลายที่ ที่นำเสนอ 3PL service และมุ่งเน้นในการทำให้ Last Mile Delivery เป็นไปอย่างราบรื่น ซึ่งนั่นหมายความว่า บริษัทต่างๆกำลังแข่งขันอย่างสูง และเริ่มตัดราคาลง ทำให้ Margin นั้นน้อยลงไปด้วย
ตลาดของบริษัทขนส่ง และการแข่งขันอันนี้ ทำให้ Marketplace ต่างๆนั้นได้ประโยชน์มากขื้น พ่อค้าแม่ค้าเองก็ได้ประโยชน์ จากบริการ และราคาที่ต่ำลงจากการแข่งขันตัดราคาอีกเช่นกัน

ECOMScape-Thailand-7

ที่มา : https://www.marketingoops.com