30 Mar March 30, 2017 by atcreative in Blog, e-Commerce News อาจกล่าวได้ว่าประเทศไทยก้าวเข้าสู่ยุคการช้อปปิ้งออนไลน์อย่างเต็มตัวหรือไม่ก็เกือบเต็ม100% ซึ่ง ณ ปัจจุบันมี บริษัท รับทําเว็บไซต์ ขายสินค้า อยู่หลายที่ เพราะหลังจากที่ระบบโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีของไทยก้าวเข้าสู่ยุค 3G อย่างเต็มรูปแบบอีกทั้งการพัฒนาด้านเทคโนโลยีที่มีความฉลาดมากขึ้นช่วยเพิ่มศักยภาพในการชำระเงิน Shopee ผู้ให้บริการ Marketplace ผ่านแอพพลิเคชั่น โชว์ความสำเร็จด้วยการเปิดตัวระบบการซื้อขายออนไลน์ ผ่านแพลตฟอร์มแอพพลิเคชั่นบนสมาร์ทโฟน ลักษณะคล้าย online shop ที่เติบโตเร็วที่สุดด้วยระยะเวลาในการดำเนินการในประเทศไทยเพียง 1 ปีสามารถสร้างยอดดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นได้กว่า 5 ล้านดาวน์โหลด ประกาศตัวชัดเจนในการเป็นผู้นำตลาด m-Commerce มร.เทเรนซ์ แพง ประธานฝ่ายปฏิบัติการ ช้อปปี้ (Shopee) กล่าวว่า“Shopee ดำเนินธุรกิจใน 7 ประเทศเอเชียตะวันออก ซึ่งประเทศไทยถือเป็นหนึ่งในตลาดสำคัญในแง่อัตราการเข้าถึงอุปกรณ์มือถือที่สูงและยังมีโอกาสในการเติบโตมากมาย โดยตลอดทั้งปี 2559 มียอดการสั่งซื้อสินค้าแล้วกว่า 1ล้านรายการต่อเดือน ขณะที่ปี 2560 จะยังคงรักษาระดับการเติบโตให้อยู่ในอัตราตัวเลขสองหลักเหมือนปีที่ผ่านมา และจะมุ่งเน้นการพัฒนาทั้งแอพพลิเคชั่นและการสร้างประสบการณ์ผู้ใช้งาน เพื่อช่วยผลักดันผู้ประกอบการรายย่อยให้เติบโตในธุรกิจออนไลน์ รวมถึงการเป็นพันธมิตรกับแบรนด์หรือผู้ขายรายใหญ่ที่มากขึ้น” โดย Shopee ดำเนินธุรกิจ m-Commerce ใน 7 ประเทศอันได้แก่ ไทย เวียดนาม ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย สิงคโปร์ อินโดนีเซีย และไต้หวัน ซึ่งไทย ไต้หวัน เวียดนามและอินโดนีเซีย จัดเป็นประเทศที่มีศักยภาพในการทำธุรกิจ m-Commerce ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของโครงสร้างพื้นฐานและระบบโลจิสติกส์ที่มีความพร้อม ขณะที่มาเลเซียและสิงคโปร์มีความพร้อมทุกด้านที่สูงกว่า แต่มีข้อจำกัดในเรื่องภูมิศาสตร์และข้อจำกัดในบางเรื่อง ขณะที่ฟิลิปินส์มีศักยภาพเติบโตสูงมาก ทาง Shopee มองว่าในระยะเวลาไม่นานนี้ฟิลิปินส์จะมีศักยภาพที่สูงขึ้น แต่ปัญหาหลักของฟิลิปปินส์คือระบบการขนส่งที่ล่าช้ากว่าทุกประเทศที่ Shopee เข้าไปดำเนินธุรกิจ ผลการดำเนินธุรกิจในปีที่ผ่ามากล่าวได้ว่า Shopee ประสบความสำเร็จ ซึ่งเป็นผลมาจากจุดเด่นของ Shopee ในการเปิดฟีเจอร์ด้านการ Chat โดยให้ผู้ซื้อสามารถแชทพูดคุยกับผู้ขายเพื่อสอบถามข้อมูลของสินค้าที่ต้องการก่อนดำเนินการสั่งซื้อ และฟีเจอร์แชทนี่เองที่ช่วยอัตราการคืนสินค้าของ Shopee อยู่ในอัตราที่ต่ำมากเพียง 1% เท่านั้น ทำให้ Shopee กล้ารับประกันความพึงพอใจในตัวสินค้าได้อย่างชัดเจน ไม่เพียงเท่านี้ Shopee ยังเลือกจับกลุ่มเป้าหมายที่เป็นเด็กนักเรียน นักศึกษามหาวิทยาลัยและกลุ่ม First Jobber โดยมองว่ากลุ่มเป้าหมายเหล่านี้เป็นเด็กกลุ่มMillennials อยู่กับเทคโนโลยีการสื่อสารมาตั้งแต่เด็กทำให้เข้าใจในระบบการซื้อขายออนไลน์ได้ง่าย ที่สำคัญเด็กกลุ่มนี้มีกำลังซื้อสูงไม่ต่างกับกลุ่มผู้ใหญ่ที่มีกำลังซื้อสูงเช่นกัน อีกหนึ่งความสำเร็จของ Shopee คือการให้บริการชำระเงินได้หลากหลายช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นการชำระผ่านบัตรเครดิตหรือบัตรเดบิตปกติทั่วไป การชำระผ่านบัญชี e-Wallet ที่สำคัญยังสามารถชำระเงินผ่านการโอนทางธนาคารหรือชำระเงินปลายทาง ซึ่งช่วยให้กลุ่มเป้าหมายเด็กกลุ่มนี้สามารถช้อปออนไลน์ได้แม้จะไม่มีบัตรเครดิตก็ตาม สำหรับแผนการดำเนินงานในปี 2560 จะยังให้ความสำคัญกับการขยายการบริการให้กับกลุ่มเป้าหมายที่หลากหลายมากขึ้นรวมถึงประเภทของผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ โดยเปิดช่องทางให้กับผู้ขายสินค้ารายใหญ่ที่เป็นแบรนด์ที่มีชื่อเสียง (Official Shops) เพื่อให้ผู้บริโภคมีตัวเลือกในการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่มากขึ้น ที่สำคัญกลุ่มผู้ขายที่เป็นแบรนด์ใหญ่จะสามารถช่วยให้ Shopee เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่ติดตามแบรนด์นั้นและเป็นกลุ่มเป้าหมายที่เป็นผู้ใหญ่ขึ้น ขณะที่ผู้ขายแบรนด์ใหญ่ก็จะสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่เป็นของ Shopee ได้อีกด้วย แคมเปญพิเศษยังถือเป็นอีกหนึ่งไม้เด็ดที่ Shopee เลือกใช้เพื่อเพิ่มยอดการซื้อขายออนไลน์ โดยเตรียมจัดแคมเปญใหม่ในชื่อ “Mobile & Electronics Madness” โปรโมชั่นและส่วนลดมากมายที่ลดสูงสุดถึง 90% ในกลุ่มผลิตภัณฑ์โทรศัพท์มือถือและอุปกรณ์ไอที คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์เสริม รวมถึงอุปกรณ์ถ่ายภาพ Cr.www.marketingoops.com