4 สิ่งที่ e-commerce มักจะทำพลาด เราควรหลีกเลี่ยงมันอย่างไร

9
Feb

ในยุคที่การทำการตลาดบนโลกออนไลน์กำลังเป็นที่น่าจับตามอง เว็บไซต์ที่มีการจัดเรียงหน้าตาให้อ่านง่าย และมีลักษณะการจัดการที่ดี จะช่วยส่งเสริมให้เป็นผู้นำของบล็อกที่โดดเด่น ดึงดูดผู้ชมเข้ามาได้มาก การทำบล็อกนั้น จะต้องใส่มุมมองของตัว Content Strategy ลงไป ซึ่งมีเว็บไซต์ E-commerce หรือที่รู้กันในชื่อเว็บไซต์ ขาย สินค้า ออนไลน์ จำนวนมากที่ผู้เขียนเห็นว่ายังขาดเนื้อหาในส่วนนี้ไป สำหรับ E-commerce ที่เกี่ยวกับแฟชั่นนั้น มักจะทำให้ตัวเองเป็นผู้นำในด้านนี้โดยการเชื่อมโยงกับแฟชั่นที่เข้ากับไลฟ์สไตล์ในชีวิตประจำวัน ซึ่งเป็นการใส่ Content Strategy ในด้านนี้ลงไป

ดังนั้นหัวข้อนี้เราจะพูดถึง 4 ปัญหาหลักของการทำเว็บไซต์ e-commerce ด้านแฟชั่นที่พบเจออยู่บ่อยๆ และวิธีการหลีกเลี่ยง

1. ขาดการเชื่อมโยงในการออกแบบหน้าหลักของเว็บไซต์

The Debenhams blog ทำภาพรวมออกมาได้ดูดี แต่จะดีกว่านั้นถ้าทำให้ผู้เยี่ยมชมสามารถทราบได้ว่าขณะนี้กำลังเข้าชมในหน้าหลักของเว็บไซต์ และสามารถย้อนกลับไปดูหน้าอื่นๆได้โดยง่าย ในส่วนนี้เป็นสิ่งสำคัญ เนื่องจากการเข้าถึงหน้าหลักของเว็บฯ ได้โดยง่ายนั้น แสดงถึงการที่ผู้ชมจะเข้าถึง Content ง่ายเช่นเดียวกัน

t3DKh97-760x570

สำหรับตัวอย่างที่แย่อีกอันมาจาก River Island พบว่าการถึงตัวเนื้อหาในเว็บไซต์ไปยังส่วนที่ซับซ้อนที่สุดภายในเว็บฯ แต่กลับใช้เวลาถึง 404 วินาที ซึ่งถือว่าเยอะมากร่วมๆ 6 นาที อีกประเด็นหนึ่งคือหลายๆ เว็บไซต์มักออกแบบเนื้อหาได้ดี แต่ขาดการเชื่อมโยงกับการขายสินต้นของแบรนด์พวกเขาเอง ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเสียดายมาก

ดังนั้นสิ่งสำคัญเพื่อไปสู่ความสำเร็จ :

  • เพิ่มการนำทางไปสู่หน้าหลักของเว็บฯ
  • เชื่อมโยงเนื้อหากับสินค้าและบริการของแบรนด์ และอธิบายความสำคัญที่เสนอให้
  • รวมบทความต่างๆ จากบล็อก เพื่อเชื่อมโยงไปยังผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดของคุณ

2. การออกแบบและการสื่อความหมาย ไม่สอดคล้องกัน

อีกปัญหาหนึ่งของเว็บฯด้านแฟชั่นคือ การไม่สอดคล้องกันของบล็อกกับหน้าหลัก ดังตัวอย่างจาก Serif แม้จะมีรูปแบบตัวอักษรสวยงาม แต่เนื้อหาจากในบล็อกนั้นไม่สอดคล้องกับเว็บฯหลัก และยากที่จะอ่านบนพื้นหลังสีดำ
กฎง่ายๆ ก็คือ : ทำให้มันสอดคล้องกัน

next

3. ไม่มีการนำ SEO มาใช้ในส่วนเนื้อหาและหัวข้อหลัก

แม้บางบล็อกจะออกแบบมาดูดีเพียงใด แต่จะไม่เป็นประโยชน์เลย ถ้าไม่เคยได้ขึ้นมาในผลการค้นหาของ search engines หรือถูกแชร์ในโซเชียลมีเดียใดๆ เนื่องมาจากไม่มีการใช้ SEO ที่ดีในส่วนของหัวข้อหลักและเนื้อหา เป็นที่แน่นอนว่าหากมีการพาดหัวข่าวในเว็บฯประเภทเครือข่ายสังคมรวมกระแสฮิตหรือแหล่งรวมเนื้อหาออนไลน์อย่าง BuzzFeed หรือ Upworthy ที่มีชื่อมากในปัจจุบัน ย่อมทำให้ทําเว็บขายของนั้นเป็นที่สนใจของผู้ชม

มาดูตัวอย่างจากนิตยสาร Oasis Fashion ที่แสดงให้เห็นถึงการพาดหัวคลุมเครือโดยปราศจากคำอธิบายเป็นสิ่งผิดพลาดอย่างยิ่ง

oasis-blog

ดังนั้น สิ่งที่ควรทำก็คือ : แทรกเนื้อหาอธิบายเกี่ยวกับหัวข้อ เพื่อให้ผู้มองไม่ต้องคิด และยึดหลักของ SEO ในการเพิ่ม traffic ของเนื้อหาและหัวข้อหลัก เพื่อให้ผู้ใช้ค้นพบเว็บไซต์ของเราได้มากขึ้น

4. สร้างหัวข้อที่กว้างเกินไป

หลายๆ บล E-commerce ไม่ยอมเจาะจงลงไปในหัวข้อที่ต้องการจะสื่อ จากการโพสต์ของ Oasis’s Let’s Go Psycling เป็นตัวอย่างที่แสดงถึงการเผยแพร่เนื้อหาอย่างกว้างๆ ไม่ได้จำเพาะเจาะจงกับผู้ชมเลย การไม่ได้ระบุว่าอะไรที่เป็นสิ่งที่ลูกค้าควรจะซื้ออาจทำให้ธุรกิจสูญเสียโอกาสนั้นไป ดังนั้นแนวทางการแก้ไขก็เพียงแค่ระบุลงไปในหัวข้อว่าต้องการจะสื่ออะไรกับลูกค้า

new-look-blog

จาก 4 ตัวอย่างนี้เป็นเพียงการยกประเด็นที่พบบ่อยๆ มาให้เห็น เพื่อให้ทำการปรับปรุงและแก้ไข หากคุณเข้าใจปัญหาทั้งหมดนี้แล้ว จะสามารถพัฒนาและวางกลยุทธ์ในการทำเว็บไซต์ e-commerce  ได้ดียิ่งขึ้น