เปิดอินไซต์ 5 ตลาดอีคอมเมิร์ซในเอเชีย ค้าขายกับใครรุ่งสุด

เปิดอินไซต์ 5 ตลาดอีคอมเมิร์ซในเอเชีย ค้าขายกับใครรุ่งสุด
25
Oct

เปิดข้อมูลอีคอมเมิร์ซตลาด เว็บไซต์ ขาย สินค้า ออนไลน์ ระหว่างประเทศ กับ 5 ตลาดในเอเชียจีน ฮ่องกง ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และอินเดีย ผู้ประกอบการไทยควรค้าขายและ ทำเว็บไซต์ e-commerce กับประเทศไหนถึงจะรุ่งที่สุด

ดีเอชแอล เอ๊กซ์เพรส บริษัทการขนส่งด่วนระหว่างประเทศในเครือดอยช์โพสต์ ดีเอชแอล เผยข้อมูล 5 ตลาดสำคัญการ ทำเว็บไซต์ ขายของ ในเอเชียที่ทำการค้าระหว่างประเทศกับไทย และระบุว่า E-commerce ระหว่างประเทศได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นในตลาดใหม่ๆ ซึ่งจะทำให้ผู้ประกอบการไทยสามารถสร้างยอดขายทาง เว็บไซต์ ขาย สินค้า ออนไลน์ ให้เติบโตจากการขยายตลาดสู่ประเทศอื่นๆ

ธุรกิจอีคอมเมิร์ซระหว่างประเทศที่กำลังขยายตัวส่งผลให้ความต้องการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศเพิ่มสูงขึ้น โดยคาดว่ามูลค่าของตลาดลอจิสติกส์ในส่วนของอีคอมเมิร์ซระหว่างประเทศทั่วโลกจะเติบโตมีมูลค่า 24,100 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในระหว่างปี 2561-2565 และคาดว่าภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกจะครองตลาดการ ทำเว็บไซต์ ขายของ ตลอดจากปริมาณการค้าอีคอมเมิร์ซที่เพิ่มขึ้นในประเทศต่างๆ เช่น อินเดีย และจีน

จากรายงานของดีเอชแอล เอ๊กซ์เพรส นำเสนอข้อมูลเชิงลึก 5 ตลาดหลักที่ทำการค้าอีคอมเมิร์ซระหว่างประเทศสูงที่สุดในเอเชีย ได้แก่ จีน ฮ่องกง ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และอินเดีย ดังนี้

จีน : ตลาดอีคอมเมิร์ซที่ใหญ่ที่สุดในโลก เชื่อมั่นคุณภาพสินค้าจากประเทศอื่น

  • ในปี 2561 ที่ผ่านมา 24% ของผู้ซื้อออนไลน์ผ่าน เว็บไซต์ ขาย สินค้า ออนไลน์ ในจีนทำการสั่งซื้อสินค้าจากต่างประเทศเพิ่มขึ้น 5% เมื่อเทียบกับปี 2560
  • ผู้บริโภคชาวจีนส่วนใหญ่เชื่อว่าการซื้อสินค้าจากต่างประเทศจะได้รับสินค้าที่มีคุณภาพดีกว่า ข้อเสนอดีกว่า มีความหลากหลายมากกว่า และสินค้าเป็นของแท้
  • ลูกค้าชาวจีนเริ่มเปลี่ยนพฤติกรรมจากเดิมที่สนใจเรื่องราคาเป็นหลัก มาให้ความสำคัญกับเรื่องของคุณภาพ แสดงให้เห็นถึงความเป็นไปได้ที่ผู้ซื้อชาวจีนจะยอมรับสินค้าที่มีราคาแพงกว่า ถ้าหากสินค้านั้นมีคุณภาพสูงกว่าและชื่อเสียงของแบรนด์ที่ดีกว่า

อินเดีย : ตลาดอีคอมเมิร์ซที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก

  • อินเดียมีผู้ใช้อินเทอร์เน็ตกว่า 462 ล้านคน และมีอัตราการเติบโตของตลาดอีคอมเมิร์ซสูงสุดที่ 51% ต่อปี และ 60% ของการซื้อสินค้าออนไลน์เกิดขึ้นในช่วงเวลาทำการปกติ
  • ยอดขายอีคอมเมิร์ซแบบค้าปลีกในอินเดียคาดว่าจะแตะระดับ 79,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ภายในปี 2563
  • เหตุผลสำคัญที่สุด 3 ข้อที่จูงใจให้ผู้บริโภคชาวอินเดียซื้อสินค้าจากต่างประเทศได้แก่ 42% คุณภาพดีกว่า รองลงมา 37% ความน่าเชื่อถือ และ 26% ข้อเสนอที่ดีกว่า
  • ตลาดอีคอมเมิร์ซในอินเดียมีการแข่งขันอย่างดุเดือด โดยมีผู้เล่นรายสำคัญในท้องถิ่น เช่น Flipkart, Snapdeal และ Amazon India ที่กำลังแย่งชิงส่วนแบ่งตลาด

ญี่ปุ่น : ปลายทางยอดนิยมสำหรับประเทศต่างๆ ในเอเชีย

  • ญี่ปุ่นมีประชากรสูงวัยจำนวนมาก และชาวญี่ปุ่นที่มีอายุเกินกว่า 55 ปีมักจะใช้เวลาส่วนใหญ่ในการเชื่อมต่อออนไลน์
  • สินค้าที่สั่งซื้อจากต่างประเทศที่ได้รับความนิยมมากที่สุดสำหรับชาวญี่ปุ่น ได้แก่ หนังสือ ซีดี วิดีโอเกม 27% รองลงมาคือ เครื่องสำอาง 21% และเสื้อผ้าและรองเท้า 20%
  • Rakuten, Amazon Japan และ Yahoo Japan Shopping เป็นตลาดอีคอมเมิร์ซระหว่างประเทศ 3 อันดับแรกที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น
  • โดยทั่วไปแล้วนักช้อปชาวญี่ปุ่นไม่ชอบความเสี่ยง และมักจะมองหาแบรนด์ที่ตนเองรู้จักและไว้ใจ อัตราการคืนสินค้าต่ำ และการบริการลูกค้าที่ยอดเยี่ยมเป็นสิ่งที่ลูกค้าชาวญี่ปุ่นคาดหวังว่าจะได้รับจากการสั่งซื้อสินค้าทางออนไลน์

เกาหลีใต้ : ตลาดอีคอมเมิร์ซเบอร์ 3 ในเอเชียแปซิฟิก

  • การซื้อสินค้าออนไลน์ภายในประเทศยังคงสร้างรายได้อีคอมเมิร์ซมากที่สุดให้กับเกาหลีใต้ แต่อีคอมเมิร์ซระหว่างประเทศก็กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วเช่นกัน
  • จากการสั่งซื้อสินค้าออนไลน์ระหว่างประเทศ ชาวเกาหลีใต้พบว่าหลังจากที่รวมค่าขนส่งและภาษีนำเข้าของสินค้าแล้ว สินค้ายังคงมีราคาถูกกว่าที่ซื้อจากเว็บไซต์ในประเทศ ทั้งนี้คาดว่าใน 2-3 ปีข้างหน้า ผู้บริโภคชาวเกาหลีที่สั่งซื้อสินค้าออนไลน์จากต่างประเทศจะมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น
  • 60% ของชาวเกาหลีที่มีอายุระหว่าง 20 ถึง 29 ปี ใช้โทรศัพท์มือถือเป็นอุปกรณ์หลักในการซื้อสินค้าออนไลน์
  • Amazon และ eBay เป็นตลาดอีคอมเมิร์ซต่างประเทศที่ได้รับความนิยมมากที่สุดจากผู้บริโภคชาวเกาหลีใต้

ฮ่องกง : โอกาสที่ดีสำหรับตลาดอีคอมเมิร์ซ

  • นักช้อปออนไลน์ในฮ่องกงคาดหวัง 3 สิ่งจากการสั่งซื้อสินค้าทางออนไลน์ ได้แก่ ค่าจัดส่งฟรี ความสะดวกที่ได้รับจากการสั่งซื้อสินค้าได้ทุกที่ทุกเวลา และส่วนลดพิเศษสำหรับการซื้อทางออนไลน์
  • 48% ของประชากรฮ่องกงอ่านรีวิวเกี่ยวกับสินค้าทางออนไลน์ก่อนที่จะตัดสินใจสั่งซื้อสินค้าออนไลน์
  • มีนักช้อปออนไลน์ในฮ่องกงเพียง 38% เท่านั้นที่ระบุว่าตนเองรู้สึกพึงพอใจในมาตรฐานการให้บริการ ดังนั้นผู้ค้าออนไลน์จะมีโอกาสประสบความสำเร็จมากขึ้นหากนำเสนอบริการทางออนไลน์ได้อย่างดีเยี่ยม

ตลาดอีคอมเมิร์ซระหว่างประเทศเติบโตอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ลูกค้าคาดหวังว่าจะได้รับสินค้าตามต้องการ ทุกที่ ทุกเวลา ตลาดในเอเชียแปซิฟิก เช่น จีน และอินเดีย มีจำนวนนักช้อปออนไลน์ระหว่างประเทศมากที่สุดในโลก

ที่มา : www.brandinside.asia