10 Feb February 10, 2015 by atcreative in Blog, e-Commerce News ฟอร์เรสเตอร์คาดการณ์ ยอดจับจ่ายสินค้าในเว็บไซต์ ขาย สินค้า ออนไลน์ในแดนมังกรคาดว่าจะทะลุล้านล้านเหรียญสหรัฐในปี ค.ศ. 2019 โดยเป็นผลจากการเติบโตของตลาดโมบายล์แอป รวมถึงระบบลอจิสติกส์ที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ทำให้สามารถเข้าถึงลูกค้าใหม่ ๆ ในเขตพื้นที่ห่างไกลได้มากขึ้นนั่นเอง แน่นอนว่าข่าวนี้เป็นข่าวดีของยักษ์ใหญ่อีคอมเมิร์ซอย่างอาลีบาบา (Alibaba) ที่แม้จะเผชิญปัญหาหุ้นตกเล็กน้อย หลังแถลงผลประกอบการ แต่ก็ยังมีแนวโน้มที่สดใสไปอีกหลายปี และการคาดการณ์นี้ยังทำให้จีนซึ่งได้กลายเป็นประเทศที่มีการค้าปลีกผ่านช่องทางออนไลน์สูงเป็นอันดับหนึ่งของโลกตั้งแต่ปี ค.ศ. 2013 เป็นต้นมา กลายเป็นประเทศที่น่าจับตามองจากนักลงทุนทั่วโลกมากยิ่งขึ้นด้วย สำหรับยอดการใช้จ่ายผ่านระบบอีคอมเมิร์ซของจีนในปี ค.ศ. 2013 นั้นมียอดสูงถึง 307,000 ล้านเหรียญสหรัฐ และในปี ค.ศ. 2014 ฟอร์เรสเตอร์ก็ได้คาดการณ์ว่าจะแตะ 440,000 ล้านเหรียญสหรัฐด้วย หรือคิดเป็น 9.8 เปอร์เซ็นต์ของตลาดค้าปลีกโดยรวมในประเทศจีน) ซึ่งหากตลาดดังกล่าวยังคงเติบโตในอัตรานี้ต่อไปเรื่อย ๆ จะสามารถแตะหลัก 1 ล้านล้านเหรียญสหรัฐได้ในปี ค.ศ. 2019 หัวใจหลักของธุรกิจอีคอมเมิร์ซจีนคือแอปบนอุปกรณ์โมบายล์ ซึ่งปัจจุบันพบว่าชาวจีนส่วนใหญ่ใช้อุปกรณ์โมบายล์ในการเชื่อมต่อเข้าอินเทอร์เน็ต แทนที่จะเป็นคอมพิวเตอร์เหมือนเช่นในอดีต และมีถึง 25 เปอร์เซ็นต์ของผู้ตอบแบบสอบถามของฟอร์เรสเตอร์เผยว่า พวกเขาซื้อของผ่านร้านค้าออนไลน์อย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้งเลยทีเดียว ขณะที่ 15 เปอร์เซ็นต์ระบุว่า ตนเองเข้ามาดูสินค้าทุกวัน และอีก 4 เปอร์เซ็นต์ระบุว่า เข้าวันละหลาย ๆ ครั้งเลยทีเดียว นอกจากนั้นยังพบด้วยว่า ยอดขายออนไลน์ผ่านแอปโมบายล์ของบรรดาเว็บไซต์ชั้นนำของจีนนั้นเติบโตแซงหน้าเว็บไซต์ประเภทเดียวกันอย่าง อเมซอนดอทคอม หรือ JD.com ไปเสียแล้ว Vanessa Zeng นักวิเคราะห์จากฟอร์เรสเตอร์เผยว่า “เราพบว่าผู้นำตลาดต่างพยายามลงทุนเพิ่มในส่วนธุรกิจโมบายล์ และการสร้างประสบการณ์ที่ดีให้เกิดกับลูกค้ามากขึ้น” ด้านระบบลอจิสติกส์ที่เคยเป็นปัญหา ปัจจุบันจะพบได้ว่า จีนได้มีการปรับปรุงโครงสร้างด้านระบบลอจิสติกส์ไปได้ไกลมากแล้ว และจะช่วยส่งเสริมให้ธุรกิจเว็บไซต์ ขาย สินค้า ออนไลน์ของอาลีบาบาและ JD.com เติบโตได้อย่างต่อเนื่อง นอกเหนือจากหน่วยงานภาครัฐลงทุนโครงสร้างแล้ว อาลีบาบายังได้ลงทุน 16,300 ล้านเหรียญสหรัฐในการพัฒนาระบบลอจิสติกส์อัจฉริยะชื่อ Cainiao ที่ตั้งเป้าหมายว่าจะสามารถส่งพัสดุถึงผู้รับในจีนได้ภายใน 24 ชั่วโมง ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็ตาม อีกทั้งยังมีการเปิดคลังสินค้าอัตโนมัติในเซี่ยงไฮ้ด้วย ที่มา : manager.co.th