ผู้ชายก็ช้อปเป็นนะครับ

16
Apr

ใครจะคิดว่าผู้ชายซึ่งจัดอยู่ในระดับหัวหน้าครอบครัวอย่างชายไทยอายุระหว่าง 20-45 ปี จะถูกขนานนามว่าเป็นกลุ่มผู้บริโภคที่ถูกลืม

เรื่องแบบนี้ไม่ใช่เพิ่งเกิดขึ้น แต่เป็นมานานตั้งแต่ยุคก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 กันเลยทีเดียว เมื่อ เอียน ไวท์ ผู้อำนวยการฝ่ายวางแผนกลยุทธ์ บริษัท เจดับบลิวที จำกัด ยืนยันว่า ตั้งแต่ยุคปี 1950-1960 บริษัทคอนซูเมอร์ยักษ์ใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นยูนิลีเวอร์ พีแอนด์จี และอีกหลายบริษัทต่างมุ่งทำตลาดไปที่กลุ่มผู้หญิง เพราะคิดว่าเจ้าหล่อนต่างหากคือผู้กำอำนาจการซื้อสินค้าแทบทั้งหมดในบ้าน

“แต่ยุคนี้ไม่ใช่แล้ว ถ้าเดินในซูเปอร์มาร์เก็ตคุณก็จะเห็นผู้ชายเดินอยู่ไม่น้อย นั่นแสดงให้เห็นว่าพวกเขาช้อป พวกเขาทำอาหาร” เอียน ไวท์ ยืนยัน
60% คือตัวเลขที่งานวิจัยบอกว่าผู้ชายเดินช้อปด้วยตัวเองในซูเปอร์มาร์เก็ต

เพราะฉะนั้นจึงถึงเวลาแล้วที่นักการตลาดจะต้องคิดเพื่อลูกค้าผู้ชายมากกว่าจะมุ่งไปที่ผู้หญิงแต่เพียงอย่างเดียว

บริษัท เจดับบลิวที จำกัด ร่วมกับ มายด์แชร์ และบริษัท มิลวาร์ดบราวน์ ไฟร์ฟลาย จำกัด สามเอเยนซี่ด้านการสื่อสารตลาด มีเดีย และงานวิจัย บริษัทในเครือ ดับบลิวพีพีกรุ๊ป จึงได้ร่วมกันทำงานวิจัยร่วมกันภายใต้หัวข้อ

“พฤติกรรมผู้ชายไทยที่คาดไม่ถึง” เพื่อเป็นแนวทางให้กับนักการตลาดที่อาจจะละเลยลูกค้ากลุ่มผู้ชายนี้ไปให้หันกลับมารู้จักพวกเขาอย่างจริงจังมากขึ้น

งานวิจัยชิ้นนี้เป็นการวิจัยแบบเจาะลึกในเชิงปริมาณและคุณภาพ กับกลุ่มชายไทยอายุระหว่าง 20-45 ปี ที่มีรายได้ระดับปานกลางหรือเดือนละ 20,000 บาทขึ้น โดยสุ่มตัวอย่างจำนวน 300 ราย เพื่อเป็นตัวแทนผู้ชายไทยในกลุ่มนี้อีกกว่า 7,9 ล้านคนทั่วประเทศไทย (ผู้ชายในช่วงอายุนี้ทั้งหมดของไทยมีทั้งประมาณ 40 ล้านคน) ซึ่งเอียน ไวท์บอกว่า เป็นกลุ่มที่มีปริมาณเท่าๆ กับกลุ่มผู้บริโภคหญิงในช่วงอายุเดียวกันเลยทีเดียว

งานวิจัยชิ้นนี้จัดทำและวิเคราะห์โดยใช้ 5 วิธี ได้แก่ การสนทนากับกลุ่มเป้าหมาย การจดบันทึกประจำวัน สำรวจชีวิตประจำวัน การสัมภาษณ์กลุ่มผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับผู้ชาย และการจัดเก็บข้อมูลเชิงปริมาณ ซึ่งได้ผลสรุปที่จะทำให้นักการตลาดได้มีโอกาสเข้าในผู้ชายไทยถึง 3 ด้านด้วยกัน นั่นคือ โลกของผู้ชาย แบรนด์ของผู้ชาย และโลกแห่งการสื่อสารของผู้ชาย เพื่อจะให้รู้แน่ว่าผู้ชายไทยเป็นอย่างไร จะขายสินค้าผู้ชายก็คงต้องเข้าใจผู้ชาย มารู้จักผู้ชายไทยกันเลย

Fun เรื่องใหญ่ของผู้ชายไทย

คำว่าสนุกสำหรับผู้ชายไทยเป็นเรื่องใหญ่และเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในชีวิต โดยมี 5 สิ่งที่ผู้ชายไทยชอบที่จะเป็น ได้แก่

  • ความเป็นอิสระ ทำอะไรก็ได้สบายๆ ไม่ต้องกังวล
  • ความสะดวกสบายส่วนตัว ถึงขนาดชอบที่จะใส่กางเกงในตัวเดียวเดินในบ้าน
  • ความปลอดภัย เกิดเป็นผู้ชายปลอดภัยกว่าหญิง
  • สนุก แม้กระทั่งเรื่องผู้หญิง มีเยอะถือว่าเท่
  • ความเป็นผู้นำ สามารถที่จะทำอะไรได้เองโดยไม่ต้องปรึกษาใคร

พฤติกรรมที่พบบ่อยในผู้ชายไทย

กุ๊กกิ๊กกับสาวอื่นที่ไม่ใช่ภรรยาถือเป็นเรื่องปกติ ความสัมพันธ์แบบนี้เป็นเรื่องสำคัญของผู้ชาย
พฤติกรรมกุ๊กกิ๊กของผู้ชายไทยส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการที่หญิงยุคใหม่เปิดกว้างมากขึ้นเรื่องความสัมพันธ์กับเพศตรงข้าม โดยเฉพาะถ้าได้มีเซ็กซ์กับหญิงอื่นที่ไม่ใช่ภรรยาถือเป็นรสชาติของชีวิต

ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีและเครือข่ายสังคมออนไลน์ ล้วนเป็นสิ่งที่สนับสนุนให้มีการเริ่มต้นสร้างสัมพันธภาพระหว่างผู้ชายกับหญิงอื่นได้ง่ายขึ้น ทั้ง Hi5 และ Facebook

พฤติกรรมผู้ชายผูกติดกับประสบการณ์ในอดีต เล่นปืนตอนเด็ก โตมาจึงมีผลต่อความชอบในกีฬาหรือของเล่นแนวเดียวกัน บีบีกันและเพ้นต์บอลล์จึงได้รับความนิยมในหมู่ผู้ชาย จากรถยนต์ของเล่นที่ทำเสียงประกอบด้วยตัวเองก็พัฒนาไปสู่การเล่นรถยนต์ มีการแต่งรถ

ส่วนกีฬาที่ขาดไม่ได้ของผู้ชายไทยก็คือฟุตบอล เพราะเล่นได้ตั้งแต่วัยเรียน หลังเลิกงาน วันหยุด และเล่นได้ต่อเนื่อง 95% ชอบฟุตบอล ขณะที่กีฬาอย่างมวยมีสัดส่วนแค่ 25%

“ใจบุญและอยากรวย” รูปแบบในฝันของชายไทย

  • 34% นักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ
  • 25% หนุ่มใจบุญ
  • 16% นักกีฬาที่มีชื่อเสียง
  • 12% หนุ่มเจ้าสำราญ (Casanova)
  • 8% เซเลบริตี้
  • 4% นักการเมือง

“ภาพที่เห็นไม่ใช่ว่าชายไทยอยากเป็นใครสักคนในอาชีพนั้น แต่สิ่งที่พวกเขาต้องการเป็นคือต้องการประโยชน์ที่คนกลุ่มนั้นได้รับ เพราะไม่เช่นนั้นแค่อยากมีเงินอย่างเดียวก็สามารถเป็นได้ทุกอย่าง” เอียน ไวท์ อธิบายเพิ่มเติม

ก็เพราะผู้หญิงนั่นแหละที่ทำให้ผู้ชายอยากดูดี

การพัฒนาตัวเองของผู้ชาย มีปัจจัยมาจากสาวๆ นี่เอง เพราะ
การที่ผู้ชายจะพัฒนาตัวเองให้ดูดี เขาจะเลือกดูแบบอย่างจากหนุ่มๆ ที่สาวๆ ชื่นชอบนั่นเอง ซึ่งผู้ชายเหล่านั่นก็มักจะปรากฏตัวในฐานะพรีเซ็นเตอร์สินค้าต่าง เช่น โดม เคน-ธีรเดช อนันดา เป็นต้น หรือคนในวงการต่างๆ ที่มักจะปรากฏตัวผ่านสื่อ เช่น นักธุรกิจ นักการเมือง คนในวงการทีวี ฯลฯ
ถ้าผู้ชายอายุน้อยอยากหล่อจะปรึกษาสาวๆ ว่าแบบไหนถึงจะดูดี
แต่ถ้าผู้ชายอายุมาก พวกเขาจะเลือกปรึกษาหนุ่มรุ่นน้อง
ชายหล่อสาวสวยของคู่กัน เมื่อผู้ชายพัฒนาตัวเองให้ดูดีสิ่งที่เขาคาดหวังก็คือการที่จะได้สาว หรือสาวๆ มาครอง

ผู้ชายไทยกับครอบครัว

ถึงผู้ชายไทยจะมีความสุขแค่สองวัน คือ วันแต่งเมีย กับวันที่เมียตาย แต่ในส่วนลึกผู้ชายไทยส่วนมากนึกถึงครอบครัวมาเป็นอันดับต้นๆ เพราะถึงที่สุดผู้ชายทุกคนก็อยากจะแต่งงานสร้างครอบครัวและมีความสุขเมื่อเห็นหน้าลูก แต่ถ้าเลือกได้พวกเขาขอกลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง เพราะเป็นชีวิตที่อิสระไม่ต้องรับผิดชอบซึ่งถือเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดของชีวิต เพียงแต่มีข้อจำกัดตรงที่ขาดประสบการณ์และขาดเงินเท่านั้นเอง
รู้จักผู้ชายไทยใน1 วัน

  • 77% อยู่กับเหย้าเฝ้ากับเรือน ในจำนวนนี้ 66%ดูทีวี อีก 27%นอน
  • 39% ฟังเพลง
  • 30% อ่านหนังสือ แบ่งเป็นอ่านหนังสือ 19% อีก 11% อ่านหนังสือพิมพ์
  • 30% เล่นกีฬา
  • 28% อยู่กับคอมพิวเตอร์ อินเทอร์เน็ตและเกม
  • 18% ใช้เวลากับครอบครัว
  • 16% ดื่มสุรา
  • 11% งานอดิเรก
  • 11% เซ็กซ์
  • 5% ออกไปนอกบ้าน ในจำนวนนี้ 63% ออกไปกับเพื่อน 20%ออกไปกับครอบครัว ส่วนอีก 8% ไปกับผู้หญิง (อื่นมากกว่าแฟนหรือภรรยา)

เงินน้อยต้องใช้ เงินมากเน้นเก็บ

ตรรกะการใช้เงินของชายไทยสำหรับจำนวนเงินที่ต่างกันไม่เหมือนกัน

ถ้าได้เงินสองหมื่นบาท

  • 45% ซื้อของสนองตัวเอง หลักๆ ที่คิดจะซื้อได้แก่ ของใช้ส่วนตัว เครื่องใช้ไฟฟ้า รถยนต์หรือมอเตอร์ไซค์ (กรณีนี้นักวิจัยตีความโดยส่วนลึกแล้วเป็นการซื้อเพื่อครอบครัวทางอ้อม)
  • 20% ให้พ่อให้แม่
  • 18% ซื้อเฟอร์นิเจอร์ แต่งบ้านใหม่
  • 18% ซื้อของให้ลูก
  • 16% ให้ภรรยาหรือแฟน

นอกเหนือจากนี้ก็มีทั้งใช้เที่ยว ทำบุญ ลงทุน กินดื่ม ใช้หนี้ หรือแม้กระทั่งเล่นพนัน และซื้อบริการทางเพศ ซึ่งยังมีติ่งอยู่ 2% เท่ากันสำหรับสองวัตถุประสงค์สุดท้าย โดยสรุปส่วนใหญ่ใช้เพื่อตัวเองแต่ก็ยังมีความตั้งใจที่จะแบ่งให้ครอบครัว

แต่ถ้าได้สักล้าน

  • 81% เก็บออม
  • 68% ให้กับสมาชิกในครอบครัว ให้พ่อแม่มาเป็นดับหนึ่ง รองมาให้ภรรยา ซื้อของให้ครอบครัว และให้ลูก
  • 45% เอาไปลงทุน
  • 22% ซื้อของให้ตัวเอง
  • 20% ทำบุญ

นอกจากนี้ ก็จะนำเงินไปใช้หนี้ (18%) ท่องเที่ยว (18%) ให้แฟน (3%) ซื้ออสังหาริมทรัพย์ (4%) ซื้อรถ (1%)

จะเห็นได้ว่า เว็บไซต์ ขาย สินค้า ออนไลน์ เป็นที่นิยมมากในปัจจุบัน ถ้าสนใจอยากมีเว็บไซต์เป็นของตัวเองล่ะก็ ลองใช้บริการบริษัท รับทำเว็บไซต์ กันดูได้นะครับ รับรองได้ว่าเว็บที่ได้มีคุณภาพอย่างแน่นอน

ที่มา : positioningmag.com