แม้จะมีการร่วมมือกับทาง JD.com ในการทำช้อปปิ้งออนไลน์แล้ว แต่นั่นคือการแยกทีมกันทำกับทีมเว็บไซต์ Central.co.th และนี่คือการพลิกโฉมอีกครั้ง เพื่อให้ลูกค้ามั่นใจได้ว่านักช้อปจะสามารถเลือกซื้อสินค้าภายในห้างได้ แม้ไม่ได้เดินทางมาที่สาขา โดยอัดงบกว่า 250 ล้านบาท ตั้งเป้าโต 150% ภายในปี 2019 นี้
แม้ว่าจะยังไม่มีตัวเลขสรุปภาพรวมรายได้ของวงการทําเว็บ e-commerceในปี 2018 แต่ภาพรวมวงการอีคอมเมิร์ซปีนี้คงหนีไม่พ้นการแข่งขันจาก 3 ยักษ์อย่าง LAZADA, Shoppee, JD Central รวมทั้งการใช้จ่ายแบบวอลเลตก็จะเริ่มได้รับการยอมรับจากผู้ใช้งานมากขึ้น แม้ว่าการเก็บภาษีออนไลน์จะเป็นประเด็นสำคัญ
อธิบดีกรมสรรพากรไทยยืนยันกับสำนักข่าว Reuters ว่าเตรียมพร้อมเก็บภาษีสำหรับคนที่ทำเว็บไซต์ ecommerce ในปีหน้า คาดว่าจะเปิดตัวภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับธุรกิจอิเล็กทรอนิกส์ในปี 2020 โดยมีเป้าหมายที่จะรวบรวมภาษีเป็นรายได้แผ่นดินให้ได้ 3-4 พันล้านบาท (98-131 ล้านเหรียญสหรัฐ) ต่อปี
ข้าสู่ช่วงต้นปีแบบนี้ แน่นอนว่า ทางสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) (สพธอ.) หรือ ETDA กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมก็ได้ออกมาสรุปภาพรวมการเติบโตและมูลค่าที่รับทำ e-commerce ชั้นนำของไทย โดยในปี 2560 ที่ผ่านมา มีมูลค่าประมาณ 2.81 ล้านล้านบาท และคาดการณ์ปี 2561 มั่นใจว่าจะมีมูลค่าสูงแตะที่ 3 ล้านล้านบาทแน่นอน
ในกลุ่มธุรกิจค้าปลีกด้านความสวยงามความงาม ต้องเรียกว่าภาพของร้านเพื่อสุขภาพและความงามอย่าง Watson ที่มีสาขากว่า 7,200 ร้านค้าและร้านขายยา กว่า 1,500 ร้านค้าใน 13 ตลาด ทั้งในเอเชียและยุโรปนั้น ดุเดือดมาก แม้ว่าสาขาในไทยเองก็มีไม่น้อยกว่า 500 สาขา แต่การจะสร้างประสบการณ์ที่ดีและภักดีต่อแบรนด์นั้น
อัปเดทความคืบหน้าครั้งใหม่ของ Uber ล่าสุดยูนิคอร์นในวงการแอปเรียกรถร่วมเดินทางประกาศเทเงินมหาศาลซื้อกิจการ Careem แอปคู่แข่งที่ให้บริการในตะวันออกกลาง ความน่าสนใจของเรื่องนี้ไม่ได้อยู่ที่โอกาสในการกินรวบตลาดอาหรับเท่านั้น
แคมเปญการตลาดบ้านเรานับวันจะท้าทายมากขึ้นทุกวัน หลังจากหลายปีที่ผ่านมา ความครีเอทีฟของนักการตลาดบ้านเรา ต่างงัดกลยุทธ์สู้ศึกแคมเปญการตลาดบนสื่อดิจิทัลกันอย่างดุเดือด ทำเอาผู้บริโภคเคยชินกับความสร้างสรรค์ในแบบเดิมๆ เพราะนักการตลาดต่างเลือกเดินตามรอยครีเอทีฟเดียวกัน เป็นเหตุให้การทำการตลาดบนสื่อดิจิทัลเกิดความจำเจ
หากพูดถึงวงการอีคอมเมิร์ซชั้นนำระดับโลก อย่างอาลีบาบา อะเมซอนแล้ว ในระดับภูมิภาค LAZADA ถือว่าเป็นยักษ์ใหญ่ในวงการอีกรายที่โดดเด่นและน่าจับตามองอย่างมาก โดยทาง Thumbsup ได้รับเกียรติเข้าร่วมงาน LazMall Brand Future Forum ที่ประเทศสิงคโปร์
ถือเป็นการเดิมพันของ Line ที่เทงบกว่า 182 ล้านเหรียญสหรัฐหรือมากกว่า 5,729 ล้านบาทในการลงทุนธุรกิจชำระเงินบนแอปพลิเคชันของตัวเองอย่าง Line Pay โดยตัวเลขนี้ปรากฎบนเอกสารที่ Line แจ้งต่อหน่วยงานกำกับดูแล ซึ่งไม่มีรายละเอียดเพิ่มเติมในขณะนี้
กลายเป็นกระแสที่วิเคราะห์กันยกใหญ่กรณี Amazon ประกาศ block โฆษณาสินค้าที่ขาดทุนบนระบบฝากสินค้าแบบขายส่งกับ Amazon การประกาศนี้แปลว่า Amazon ไม่แคร์รายได้จากการโฆษณา แล้วให้ความสนใจแต่เรื่องกำไรขาดทุนมากกว่า